
HotNews : BPP ลุ้น H1/6 ปิดดีลลงทุนโรงไฟฟ้าแก๊สในสหรัฐฯ
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (3 มีนาคม 2564) "กิรณ ลิมปพยอม" แม่ทัพ BPP คาดปิดดีลลงทุนโรงไฟฟ้าแก๊สในสหรัฐฯ ภายใน H1/64 - พร้อมซุ่มทำดีลโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ -โรงไฟฟ้าRenewable เพียบ พร้อมวางงบลงทุนปีนี้ราว 200-300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รองรับแผนขยายการลงทุนต่อเนื่อง เพื่อเดินสู่เป้า 5,300 เมกะวัตต์ ภายในปี 68
นายกิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) BPP เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดว่าภายในครึ่งปีแรกปีนี้ มีโอกาสที่จะได้เห็นความชัดเจน แผนการลงทุนโรงไฟฟ้าแก๊สในสหรัฐอเมริกา โดยบริษัทฯ จะการ synergy กับบริษัทแม่ คือ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) BANPU ที่มีการลงทุนในประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่แล้ว พร้อมกันนี้ยังมีดีลการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม รวมไปถึงโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด (Renewable Energy ) ที่อยู่ในระหว่างการเจรจาลงทุนอีกมากกว่า 200 เมกกะวัตต์
สำหรับปี 2564 นี้บริษัทฯ ได้วางงบลงทุนไว้ประมาณ 200-300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อรองรับแผนการลงทุน โครงการโรงไฟฟ้าในประเทศที่บริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนอยู่แล้ว เช่นที่ประเทศญี่ปุ่น จีน ออสเตรเลีย เป็นต้นโดยที่ญี่ปุ่นบริษัทฯ มองโอกาสการเข้าไปลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงาลมในทะเลด้วย ส่วนนประเทศไทย ในส่วนของโครงการโซลาร์กองทัพบกขนาด 30,000 เมกะวัตต์ ในฐานที่บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม หากโครงการดังกล่าวมีความชัดเจนเกี่ยวกับเงื่อนไขต่างๆ บริษัทฯ ก็พร้อมจะเข้าไปลงทุนเช่นกัน
ทั้งนี้บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะผลักดัน กำไรก่อน ดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA margin ) จากพอร์ตการลงทุนโครงการพลังงานสะอาดให้เพิ่มเป็น 5% ในปีนี้
นายกิรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนธุรกิจ 5 ปีต่อจากนี้ บริษัทฯ มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการบริหารต้นทุนของโรงไฟฟ้า เพื่อให้สามารถเดินเครื่องจ่ายไฟได้ตามเป้าหมาย พร้อมเดินตามกลยุทธ์ Greener & Smarter เน้นการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วและโครงการที่ใกล้จะแล้วเสร็จ (Brownfield) ที่มีการใช้เทคโนโลยีHigh Efficiency, Low Emissions (HELE) เพื่อส่งมอบพลังงานไฟฟ้าที่สะอาดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไปในประเทศที่กลุ่มบ้านปูดำเนินธุรกิจอยู่ เช่น สหรัฐอเมริกา โดยพิจารณาการลงทุนในรูปแบบกิจการร่วมค้า (Joint Venture) รวมไปถึงการหาพันธมิตรร่วมลงทุนซึ่งสัดส่วนการลงทุนขึ้นอยู่กับขนาดของโรงไฟฟ้า โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในครึ่งแรกของปีนี้
ทั้งนี้เพื่อบรรลุเป้าหมายกำลังผลิต 5,300 เมกะวัตต์ในอีก 5 ปีข้างหน้า บ้านปู เพาเวอร์จะเดินหน้าด้วย 3 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่
1) ผนึกพลังร่วมภายในกลุ่มบ้านปู ใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศทางธุรกิจของบ้านปู (Banpu Ecosystem) ในการเข้าถึงเทคโนโลยี ฐานลูกค้าและคู่ค้า และแบ่งปันความเชี่ยวชาญด้านพลังงานอย่างไร้รอยต่อ เช่น การต่อยอดธุรกิจซื้อขายไฟฟ้า (Energy Trading) และธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานในประเทศที่มีศักยภาพ
2) มุ่งแสวงหาโอกาสการลงทุนในประเทศแถบเอเชีย-แปซิฟิกที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจและมีความต้องการพลังงานไฟฟ้าสูง โดยเน้นการลงทุนในโครงการที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วที่สามารถสร้างกระแสเงินสดทันที กับการลงทุนในโครงการที่ใกล้จะแล้วเสร็จ (Brownfield) และ
3) ผลักดันการเติบโตของธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีพลังงานผ่านการลงทุนในบ้านปู เน็กซ์ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในตลาดใหม่ๆ และนำนวัตกรรมมาต่อยอดพัฒนากระบวนการผลิตไฟฟ้าของบ้านปู เพาเวอร์ต่อไป
นอกจากนี้บ้านปู เพาเวอร์ยังมุ่งสร้างการเติบโตในพอร์ตพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงานผ่านบ้านปู เน็กซ์ เตรียมเพิ่มกำลังผลิตจากพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 100 เมกะวัตต์ เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายขยายกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนถึง 800 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 โดยมีการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะของกิจการ (Due Diligence) อย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศจีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม ซึ่งบ้านปู เพาเวอร์ดำเนินธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอยู่แล้ว รวมถึงมองหาโอกาสเพิ่มเติมในประเทศที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงและเป็นแหล่งดำเนินธุรกิจพลังงานของกลุ่มบ้านปู เช่น สหรัฐอเมริกาอีกด้วย ทั้งหมดนี้ เพื่อให้บ้านปู เพาเวอร์สามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง”
“การที่หุ้น BPP ได้เข้าคำนวนในดัชนี MSCI GLOBAL SMALL CAP INDEX เมื่อปลายปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและการเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง นอกจากนี้ อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net Debt to Equity: Net D/E) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 ที่ 0.07 เท่า ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำ ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเติบโตและความพร้อมสำหรับการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ในอนาคต บ้านปู เพาเวอร์จะยกระดับและพัฒนาประสิทธิภาพในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าด้วยจุดยืนการเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าคุณภาพเพื่อโลกที่ยั่งยืน (We ARE Power for the Sustainable World) พร้อมผลักดันการเติบโตโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคมและการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social and Governance: ESG) เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานไฟฟ้าในบริบทที่หลากหลายและแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ เพิ่มมูลค่าและสร้างผลตอบแทนแก่ผู้มีส่วนได้เสียอย่างมั่นคง” นายกิรณ กล่าว
สำหรับปี 2563 บ้านปู เพาเวอร์มีผลกำไรสุทธิ จำนวน 3,702 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากปีก่อนหน้า และมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 5,230 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จากปีก่อนหน้า นอกจากนี้ บริษัทฯ กำหนดการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2563 งวดวันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.65 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลทั้งปีที่ร้อยละ 54 ของกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน สะท้อนความสามารถในการสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน