เช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องทุกพื้นที่ พบระดับสีแดงเกิน 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรถึง 15 พื้นที่ ขอให้งดทำกิจกรรมกลางแจ้งในพื้นที่เสี่ยงสูง
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า ช่วงเช้าวันนี้ (23 ม.ค.64) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องทุกพื้นที่เกินมาตรฐานในระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพ 35 พื้นที่ พบค่าฝุ่นเกิน 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร 15 พื้นที่ คือ ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน , แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม , เขตจอมทองริมถนนบางนา-ตราด เขตบางนา , ริมถนนสุขาภิบาล 5 เขตสายไหม , แยกสวนสยาม-รามอินทรา เขตคันนายาว , ริมถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง , ริมถนนสีหบุรานุกิจ เขตมีนบุรี , ริมถนนเลียบวารี เขตหนองจอก , ริมถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ , ริมถนนคลองทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา , ริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม , ริมถนนเอกชัย เขตบางบอน , ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ , ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 39 พื้นที่ และฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เดินระดับสีส้ม 38 พื้นที่ เนื่องจากสภาพอากาศช่วงนี้จนถึงวันที่ 26 มกราคมจะมีความเร็วลมต่ำและลมสงบ ส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่นละอองให้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทุกภาคของประเทศ โดย ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจจับและควบคุมรถยนต์ที่ปล่อยควันดำบนท้องถนน ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังเข้มงวดจะช่วยลดฝุ่น PM 2.5 ลงได้ค่อนข้างมาก ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนของมาตรการรัฐบาลที่ได้ดำเนินการไปแล้วอย่างเข้มงวด
ขณะที่ทั่วประเทศค่าฝุ่น PM 2.5 และ PM 10 ปรับตัวสูงขึ้นหลายพื้นที่เช่นกันทั้งระดับสีส้มและสีแดง เกินมาตรฐานระดับสีแดง 37 พื้นที่ เช่น ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี , ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา จากสภาพอุตุนิยมวิทยาและการเผาในที่โลง โดย กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่งดการเผาในที่โล่ง เพื่อป้องกันการเพิ่มสูงขึ้นของฝุ่นละอองต่อเนื่องและส่งผลกระทบต่อสุขภาพ