
HotNews: FTE ปักหมุดรายได้ปี 61โต 10-20%
ลุยประมูลงาน15-20 โครงการ
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 30 พฤศจิกายน 2560)-------- FTE ตั้งเป้ารายได้ปี 61 โต 10-20% จากปีนี้ มั่นใจเข้าเป้า 1 พันลบ. พร้อมรักษาอัตรากำไรขั้นต้นกว่า 13% เล็งประมูลงานเพิ่มอีก15-20 โครงการ มูลค่า 400 ลบ. ลุ้นคว้างาน 70% เผยไตรมาส 4 แนวโน้มดี
นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (FTE) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 61 เติบโต 10-20% จากปีนี้คาดทำได้ 1 พันล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีงานที่อยู่ในมือ (Backlog) แล้วทั้งหมด 380 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ 150 ล้านบาท และที่เหลือจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 61 ทั้งหมด ซึ่งในปี 61 บริษัทได้เข้ารับงานประเภทรับเหมาโครงการเข้ามาค่อนข้างมากทำให้สัดส่วนรายได้จะมาจากธุรกิจรับเหมาติดตั้งระบบดับเพลิงอยู่ที่ 35% และจากการขายผลิตภัณฑ์ดับเพลิง 65% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรับเหมา 31% และจำหน่าย 69%
พร้อมกันนี้บริษัทตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ในปี 61 ที่ไม่ต่ำกว่า 13% ในระดับใกล้เคียงกับปีนี้ แม้จะมีสัดส่วนงานรับเหมาที่มีมาร์จิ้นต่ำกว่าเข้ามาเพิ่ม โดยบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้น(Gross Profit Margin)ของกลุ่มรับเหมาอยู่ที่ 24 -25% และของกลุ่มจำหน่ายอยู่ที่ 26 - 27%
สำหรับแผนการเข้าประมูลงานใหม่ บริษัทเตรียมเข้าประมูลติดตั้งระบบดับเพลิงให้แก่สถานีไฟฟ้าย่อย (Substation)ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทั้งหมด 15 - 20 โครงการ มูลค่ารวม 350 - 400 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้งานเข้ามาราว 70% และจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวภายในปี 61 ราว 70% ของมูลค่างานที่ได้รับทั้งหมด
ขณะเดียวกันคาดว่าในปี 61 ตลาดอุปกรณ์และระบบดับเพลิงจะมีความต้องการใช้งานเพิ่มมากขึ้น โดยเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการลงทุนภาครัฐ การลงทุนของภาคเอกชนในกลุ่มธุรกิจต่างๆ อาทิ นิคมอุตสาหกรรม ภาคการผลิต ท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ อีกทั้งยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการบังคับใช้กฎหมายควบคุมอาคาร โรงงานอุตสาหกรรม ที่มีแนวโน้มกำหนดมาตรฐานของระบบดับเพลิงให้มีความปลอดภัยมากขึ้น
ทั้งนี้บริษัทมีแผนเข้าประมูลโครงการออกแบบ-ติดตั้งระบบดับเพลิง และนำเสนอผลิตภัณฑ์กับกลุ่มลูกค้าผู้รับเหมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอผลพิจารณางานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงเพิ่มเติมอีก 10-12 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยทราบผลภายใน Q1/61 นี้ มั่นใจว่าบริษัทจะประมูลงานได้สำเร็จตามเป้าหมายและเริ่มดำเนินงาน-รับรู้รายได้ในช่วงต้นปีหน้า
นายทักษิณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจช่วงไตรมาส 4/60 มีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมั่นใจว่ารายได้จะเติบโต 20% ในปีนี้ หรือมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท และสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 13%
“ในช่วงไตรมาส 4 บริษัทยังคงรับรู้รายได้จากงานคอนโดมีเนียมที่ทยอยเร่งส่งมอบงานภายในปีนี้ สำหรับโครงการใหญ่ที่มีความล่าช้าในช่วงที่ผ่านมา คาดว่าจะทยอยเห็นความชัดเจนในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งจะส่งผลดีต่อการดำเนินงานของบริษัท ทำให้มีโอกาสเข้ารับงานอย่างต่อเนื่องในปี 61 อย่างไรก็ตามความล่าช้าที่เกิดขึ้นไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจในปีนี้ เนื่องจากบริษัทมี Backlog ปัจจุบันอยู่ที่ 380 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 150 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถทำให้การเติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2561 – 2562”นายทักษิณ กล่าว
สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 3/60 บริษัทมีรายได้รวม 279.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77.25 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 38.12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 40.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.20 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 91.87% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
อนึ่งผลประกอบการงวด 9 เดือนบริษัทมีรายได้รวม 732.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129.11 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 21.39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 94.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.71 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 78.94%
---จบ---