สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(28 พฤศจิกายน 2563)— ตามที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด ("บริษัทจัดการ") ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ (LUXF) ("กองทุนรวม")ได้รับแจ้งข้อมูลจากบริษัท ซัสเทนเนเบิ้ล ลัคชัวรี ฮอสพิทัลลิตี (ไทยแลนด์) จำกัด ("เอสแอลเอช-ผู้เช่า")ในฐานะผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนรวมลงทุน ได้แก่ โครงการโรงแรม ซิกส์เซ้นส์ ยาวน้อย (SixSensesYao Noi) ตั้งอยู่บน เกาะยาวน้อย อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา ("โรงแรม")
เพื่อขอใช้สิทธิในการงดเว้นการชำระค่าเช่าคงที่เนื่องจากเกิดเหตุสุดวิสัยตามสัญญาเช่าโรงแรมโดยให้มีผลสำหรับการชำระค่าเช่าตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นไปจนกว่าเหตุสุดวิสัยจะสิ้นสุดลง
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ส่งผลอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมีนาคม2563 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เหตุสุดวิสัยตามสัญญาเช่าโรงแรมยังมีอยู่
แม้ว่าผลประกอบการของโรงแรมในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาจะมีผลให้เหตุสุดวิสัยตามสัญญาเช่าโรงแรมไม่มีผลใช้บังคับสำหรับการชำระค่าเช่าในเดือนกันยายน 2563
แต่เหตุสุดวิสัยตามสัญญาเช่าโรงแรมมีผลใช้บังคับสำหรับการชำระค่าเช่าในเดือนมีนาคมถึงเดือนสิงหาคม 2563และตามประมาณการทางการเงินที่เอสแอลเอช-ผู้เช่าได้จัดทำขึ้นเหตุสุดวิสัยตามสัญญาเช่าโรงแรมจะยังคงมีผลใช้บังคับอยู่สำหรับการชำระค่าเช่าในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน 2563
เอสแอลเอช-ผู้เช่าจึงได้มีหนังสือขอเลื่อนกำหนดการชำระค่าเช่าตามสัญญาเช่าสำหรับค่าเช่าที่เกิดขึ้นในเดือนกันยายน 2563 โดยจะไปชำระพร้อมกับค่าเช่าค้างชำระจำนวนอื่นใดที่เกิดขึ้น(ถ้ามี) โดยจะชำระในสิ้นปี2563
คณะกรรมการลงทุนของกองทุนรวมจึงได้มีมติอนุมัติให้เลื่อนกำหนดการชำระเงินค่าเช่าตามสัญญาเช่าตามที่ได้รับการร้องขอดังกล่าวเนื่องจากกองทุนรวมกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากำหนดข้อตกลงกับทางโรงแรมในเรื่องการแบ่งผลประโยชน์ รายได้และค่าใช้จ่าย ในระหว่างที่เงื่อนไขเหตุสุดวิสัยตามสัญญาเช่าโรงแรมมีผลใช้บังคับเนื่องจากธุรกิจโรงแรมยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19)
ทั้งนี้ กองทุนรวมจะติดตามสถานการณ์ของเหตุสุดวิสัย และดำเนินการแจ้งรายละเอียดต่างๆ
ให้ผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมทราบถึงสถานการณ์เป็นระยะต่อไป