HotNews : PRAPAT เคาะราคาไอพีโอ 1.50บ./หุ้น ดีเดย์เทรด mai 20 ต.ค.นี้

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (9 ตุลาคม 2563) PRAPAT แต่งตั้ง “บล. โนมูระ พัฒนสิน” เป็น Lead Underwriter เคาะราคาไอพีโอ 1.50 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อหุ้น 12, 14 และ 15 ตุลาคม และคาดนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) 20 ต.ค.นี้

 

 

บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (PRAPAT) และบริษัทย่อยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อ ภายใต้ตราสินค้าหลัก “PEERAPAT” รวมทั้งเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอุตสาหกรรมการให้บริการ (Hospitality Industry) อีกทั้งให้เช่าและให้บริการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัท ได้สรุปราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอไว้ที่ 1.50 บาท/หุ้น โดยจะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)วันที่ 20 ตุลาคม นี้

 

 

"ราคาหุ้นที่เสนอขายหุ้นละ 1.50 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ เท่ากับ 11.90 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ซึ่งมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทเท่ากับ 42.85 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับ 340,000,000 หุ้น (Fully Diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share) ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท เท่ากับ 0.1260 บาท"บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ระบุ

 

 

PRAPAT จะเสนอขายหุ้นไอพีโอ 100 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 29.41 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ในวันที่ 12, 14 และ 15 ตุลาคม 2563

 

 

วัตถุประสงค์การใช้เงิน จำนวนเงินลงทุนที่ใช้จากการระดมทุน (ล้านบาท) ระยะเวลาที่ใช้เงินโดยประมาณ

1. ลงทุนในระบบบัญชีและระบบควบคุมการผลิต 50.00 ล้านบาท Q4/63 – Q2/64

2. ลงทุนก่อสร้างคลังสินค้าเพิ่มเติม 72.00 ล้านบาท Q1/64 – Q1/65

3. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ 5.79 ล้านบาท ปี 2563 - ปี 2564

รวมทั้งสิ้น 127.79 ล้านบาท

 

 

บริษัทมีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย และเงินสำรองอื่นตามที่บริษัทกำหนด โดยพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท อย่างไรก็ตามการจ่ายเงินปันผลดังกล่าว อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับความเพียงพอของกระแสเงินสดสุทธิ ฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน แผนการลงทุนในโครงการต่างๆ ของบริษัท รวมถึงความจำเป็นและความเหมาะสมอื่นในอนาคตตามที่คณะกรรมการบริษัท และ/หรือผู้ถือหุ้นของบริษัท เห็นสมควรหรือเหมาะสม ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะต้องก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้น

 

 

บริษัทย่อยจะมีนโยบายจะจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย และเงินสำรองอื่นตามที่บริษัทย่อยกำหนด โดยพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทย่อยแต่ละแห่ง อย่างไรก็ตามการจ่ายเงินปันผลดังกล่าว อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับความเพียงพอของกระแสเงินสดสุทธิ ฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน และแผนการลงทุนในโครงการต่างๆ ของบริษัทย่อย รวมถึงความจำเป็นและความเหมาะสมอื่นในอนาคตตามที่คณะกรรมการบริษัทย่อยเห็นสมควรหรือเหมาะสมตามสภาพธุรกิจ ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะต้องก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้น

 

 

 

นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (ชื่อย่อหุ้น PRAPAT) ได้แต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ PRAPAT พร้อมผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย อีก 6 บริษัท ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด

 

 

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า PRAPAT เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก หรือ IPO จำนวน 100 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 29.41 ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดย APM ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ สำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยในวันที่ 7 ตุลาคม 2563 สำนักงาน ก.ล.ต. ได้อนุญาตให้บริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

ทั้งนี้ PRAPAT จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เพื่อระดมทุนรองรับการขยายธุรกิจ “Cleaning Hygiene Solutions” ของบริษัท นอกจากนี้การที่ PRAPAT ได้ทำการเดินสายเพื่อนำเสนอข้อมูลบริษัทแก่นักลงทุน 15 จังหวัด และนำเสนอข้อมูลแก่นักวิเคราะห์ เจ้าหน้าที่การตลาด ณ ห้องค้าบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ ก็ได้รับการตอบรับที่ดี

 

 

ด้านนายวิศรุต อังศุภากร ผู้อำนวยการสายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ PRAPAT กล่าวว่า การเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 100 ล้านหุ้น มีการกำหนดราคาอยู่ที่หุ้นละ 1.50 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) 11.90 เท่า ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และสอดคล้องกับสภาวะของตลาดปัจจุบัน โดยกำหนดวันจองซื้อวันที่12, 14 และ 15 ตุลาคม 2563 และคาดว่าจะนำหุ้น PRAPAT เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในเดือนตุลาคม 2563

 

 

นายสืบพงศ์ เกตุนุติ รองประธานกรรมการบริษัทและผู้ก่อตั้ง บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PRAPAT กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินจากการระดมทุนไปใช้ขยายธุรกิจ “Cleaning Hygiene Solutions” รวมถึงการพัฒนา และเพิ่มมูลค่าของบริษัท ด้วยการลงทุนในระบบบัญชีและระบบควบคุมการผลิต และการลงทุนก่อสร้างคลังสินค้าเพิ่มเติม เพื่อให้บริษัทเติบโตอย่างมั่งคงและสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น หลังการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในอนาคตอันใกล้

 

 

ปัจจุบัน PRAPAT เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีทำความสะอาด และฆ่าเชื้อ โดยบริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อ ภายใต้ตราสินค้าหลัก “PEERAPAT” รวมทั้งเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอุตสาหกรรมการให้บริการ (Hospitality Industry) โดยผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นผู้ผลิตหรือนำเข้ามาจำหน่าย แบ่งออกเป็น 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1) กลุ่มผลิตภัณฑ์ซักรีด 2) กลุ่มผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อ 3) กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านครัว 4) กลุ่มผลิตภัณฑ์แม่บ้านและการทำความสะอาดพื้น 5) กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือน 6) กลุ่มผลิตภัณฑ์สระว่ายน้ำ 7) กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องทำน้ำร้อนประหยัดพลังงาน อีกทั้งเป็นผู้ให้เช่าและผู้ให้บริการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัท ได้แก่ การให้เช่าและบริการด้านครัว งานบริการด้านสระว่ายน้ำ งานบริการด้านเครื่องทำน้ำร้อนประหยัดพลังงาน และงานบริการอื่นๆ

 

“ผลการดำเนินงานของบริษัท ในช่วงปี 2560 ถึงปี 2562 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) เท่ากับ 5.23% โดยผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทจำนวน 11.09 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า จำนวน 2.38 ล้านบาท เป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 ก่อนธุรกิจจะค่อยๆ กลับมาฟื้นตัว ในช่วงเฝ้าระวังการระบาดของโควิด-19” นายสืบพงศ์ กล่าว

 

 

 

 

---เจาะธุรกิจ PRAPAT---

 

 

บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (“บริษัท” หรือ “PRAPAT”) และบริษัทย่อย ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อ ภายใต้ตราสินค้าหลัก “PEERAPAT” รวมทั้งเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอุตสาหกรรมการให้บริการ (Hospitality Industry) โดยผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นผู้ผลิตหรือนำเข้ามาจำหน่าย แบ่งออกเป็น 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1) กลุ่มผลิตภัณฑ์ซักรีด 2) กลุ่มผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อ 3) กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านครัว 4) กลุ่มผลิตภัณฑ์แม่บ้านและการทำความสะอาดพื้น 5) กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือน 6) กลุ่มผลิตภัณฑ์สระว่ายน้ำ 7) กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องทำน้ำร้อนประหยัดพลังงาน อีกทั้งให้เช่าและให้บริการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัท ได้แก่ การให้เช่าและบริการด้านครัว งานบริการด้านสระว่ายน้ำ งานบริการด้านเครื่องทำน้ำร้อนประหยัดพลังงาน และงานบริการอื่นๆ

 

 

บริษัทเป็นผู้นำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในภาคอุตสาหกรรมการให้บริการ (Hospitality Industry) อาทิ กลุ่มธุรกิจโรงแรม โรงพยาบาล และร้านอาหาร รวมทั้งโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งบริษัทมีประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 30 ปี ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับจากลูกค้าต่างๆ อาทิ โรงแรม โรงซักรีด โรงพยาบาล ร้านอาหาร ภัตตาคาร ศูนย์อาหาร สถาบันการศึกษา โรงงานอุตสาหกรรมผลิตอาหารและเครื่องดื่ม โรงฆ่าสัตว์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังจำหน่ายน้ำยาทำความสะอาดที่ใช้ในครัวเรือน (Home-user) อาทิ น้ำยาทำความสะอาดภาชนะ น้ำยาทำความสะอาดพื้น น้ำยาซักรีดเสื้อผ้า น้ำยาฆ่าเชื้อประเภทแอลกอฮอล์แบบน้ำและแบบเจล เป็นต้น

 

 

บริษัทมีโรงงานตั้งอยู่ที่ตำบลทับคาง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งบริษัทได้รับมาตรฐานระบบบริหารงานคุณภาพ (ISO 9001) มาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (ISO 14001) มาตรฐานการจัดการชีวอนามัยและความปลอดภัย (TIS 18001, OHSAS 18001) มาตรฐานรับรองเกี่ยวกับสุขลักษณะและข้อกำหนดการผลิต (Good Manufacturing Practice: GMP) และมาตรฐานผลิตภัณฑ์ HALAL สำหรับช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าผ่านทางทีมงานฝ่ายขายของบริษัท ศูนย์ธุรกิจ และสาขา

 

 

อีกทั้งบริษัทยังมีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายที่บริษัทเป็นผู้คัดเลือก ซึ่งปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายทั้งหมด 18 ราย ครอบคลุมเขตพื้นที่การขายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย นอกจากนี้ บริษัทและบริษัทย่อยได้ขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community: AEC) โดยรูปแบบการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศที่ขยายเขตพื้นที่การขายเข้าไป ปัจจุบันมีการแต่งตั้งตัวแทน 10 รายในพื้นที่การขาย 5 ประเทศแล้ว ประกอบด้วย กัมพูชา เวียดนาม เมียนมา สปป.ลาว และอินโดนีเซีย  บริษัทได้จัดโครงสร้างกลุ่มบริษัทเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงาน โดยการแบ่งความรับผิดชอบการดำเนินงาน สำหรับบริษัทย่อย 4 บริษัท ได้แก่

 

 

1. บริษัท ไทยสจ็วต เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (TSS) ดำเนินงานให้บริการเช่าและจำหน่ายเครื่องล้างภาชนะแก่กลุ่มลูกค้าร้านอาหารและเครื่องดื่ม โดย TSS จะซื้อน้ำยาทำความสะอาดภาชนะจากบริษัทเพื่อจำหน่ายต่อให้แก่ลูกค้า

2. บริษัท มิสเตอร์พูล จำกัด (MP) ดำเนินงานให้คำปรึกษา จำหน่าย และวางระบบสระว่ายน้ำและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ รวมถึงจำหน่ายเคมีภัณฑ์ปรับสภาพน้ำ โดยให้บริการแก่ลูกค้ากลุ่มโรงแรม ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Property Developer) โดย MP จะซื้อน้ำยาทำความสะอาดจากบริษัทเพื่อจำหน่ายต่อให้แก่ลูกค้า

3. บริษัท แคลวาทิส-เอเชีย แปซิฟิค จำกัด (CVT) ดำเนินงานจำหน่ายน้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อ สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ โดย CVT จะซื้อน้ำยาทำความสะอาดจากบริษัทเพื่อจำหน่ายต่อให้แก่ลูกค้า

4. บริษัท แอลไลส์ อินเตอร์เทรด จำกัด (AL) ดำเนินงานจำหน่ายน้ำยาซักรีดสูตรเฉพาะสำหรับกลุ่มธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท อาทิ โรงพยาบาล โรงซักอุตสาหกรรม โรงฆ่าสัตว์ โดย AL จะซื้อน้ำยาทำความสะอาดจากบริษัทเพื่อจำหน่ายต่อให้แก่ลูกค้า