HotNews : INTUCH ชิวๆ GULF ถือหุ้น 10% 

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 7 ตุลาคม 2563)  INTUCH แจ้ง ตลท. ตามที่ GULF ได้เข้ามาถือหุ้นบริษัทในสัดส่วน 10% ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนอำนาจการควบคุม ตลอดจนนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัท ระบุโครงสร้างการถือหุ้นล่าสุด ณ วันที่ 6 ต.ค.63 ยังเป็น Singtel Global Investment Pte.Ltd. ถือหุ้นใหญ่สัดส่วนเดิมที่ 21% ส่วน GULF ถือหุ้นเพิ่มเป็น 10% จากเดิมถือ 7.99%

 

 

นายเอนก พนาอภิชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH เปิดเผยว่า บริษัทฯขอแจ้งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ภายหลังบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ได้รายงานความคืบหน้าการลงทุนในหุ้นสามัญในบริษัทฯต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2563 ว่าได้เข้าถือหุ้นสามัญของบริษัทฯในสัดส่วนร้อยละ10 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ

 

 

ทั้งนี้บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นดังกล่าวไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจการควบคุม ตลอดจน นโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด

 

 

สำหรับโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทฯ ภายหลังทำรายการ เป็นดังนี้

 

 

 

 

 

ทั้งนี้ นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) GULF เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ว่า ตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) ทราบว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ลงทุนในหุ้นสามัญในบริษัทอินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (“INTUCH”) ได้ไม่เกินร้อยละ 10.00 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของINTUCH ภายในวงเงิน 19,000 ล้านบาท

 

 

โดยการซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ และ/หรือโดยวิธีอื่นใดตามที่เห็นสมควรภายใต้กฎหมายและหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(“สำนักงาน ก.ล.ต.”)และตลาดหลั0ทรัพย์ฯ ที่เกี่ยวข้องนั้น

 

บริษัทฯ ขอเรียนให้ทราบว่า ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2563 บริษัทฯ ได้เข้าถือหุ้นสามัญ INTUCH เป็นจำนวน320,650,943 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 10.00 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ INTUCH ซึ่งเป็นไปตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ

 

ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า แนะนำ "ซื้อ" INTUCH ราคาเป้าหมาย 64.50 บาท/หุ้น (sum of the part) INTUCH มีค่าเฉลี่ยระยะยาว 8 ปีของ Discount to NAV ที่ 19.6% แม้ระดับปัจจุบันเริ่มใกล้เคียงค่าเฉลี่ยในอดีตแล้วแต่ยังมีส่วนต่างให้เก็งกำไรระยะสั้นอีกราว 1% ขณะที่ภาพระยะกลางแข็งแกร่งจาก ADVANC ผ่านรอบลงทุนหนักในคลื่นและโครงข่ายไปมากแล้ว รอเวลาเก็บเกี่ยวกำไร ขณะที่ THCOM มีลุ้นกลับมาเติบโตรอบใหม่หลังหมดสัมปทานดาวเทียมในปี 2564

 

 

คงคำแนะนำ "ซื้อ" ADVANC ที่ราคาเหมาะสม 220.00 บาทต่อหุ้น (DCF WACC 7.8% T.G. 2%) เราคาด 2H63 กำไรฟื้นตัว HoH ตามการแข่งขันที่ลดลงและการไม่ต้องอุดหนุนภาครัฐ ขณะที่ภาพระยะกลาง ADVANC จะเริ่มได้เก็บเกี่ยวผลบวกการลงทุนหนักทั้งในคลื่นและโครงข่ายในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เราชอบความพยายามพัฒนาธุรกิจใหม่เพื่อต่อยอดทั้ง FWA และ MEC แต่ยังให้น้ำหนักน้อยจากคาดยังไม่มีนัยสำคัญต่อกำไร

 

ยังไม่มีคำแนะนำสำหรับ THCOM แต่ยกให้เป็นหุ้นเด่นที่ต้องจับตา ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจใหม่ที่จำกัดและการประมูลดาวเทียมที่ยังมีความไม่ชัดเจน เป็นข้อจำกัดในการประเมินมูลค่า และทำให้เราแนะนำ THCOM ในลักษณะของการเก็งกำไรเป็นหลัก อย่างไรก็ดี THCOM มีความน่าสนใจในแง่ Downside Risk จำกัด ดังนี้ 1) เงินสด ณ สิ้น 2Q63 ที่ 6.01 บาทต่อหุ้น หรือมีเงินสดสุทธิหลังหักภาระหนี้สินทั้งหมด ณ สิ้น 2Q63 ที่ 2.22 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 36% ของราคาปัจจุบัน 2) แม้หุ้นปรับขึ้นมามากแต่ยังซื้อขายที่ P/BV 0.58x ใกล้เคียงดาวเทียมค้างฟ้าทั่วโลกที่ซื้อ ขาย ราว 0.6x แต่ 3) หุ้นมีโอกาสที่หุ้นจะถูก Re-rate กลับไปซื้อ ขาย ที่ใกล้เคียง BVPS ที่ 10.46 บาทต่อหุ้น หากมีความชัดเจนหลังหมดสัมปทานในปี 2564 หาก THCOM ได้บริหารต่อจะทำให้รายได้ของ THCOM กลับมาเติบโตอีกครั้ง แต่หาก THCOM ไม่ได้ต่อสัมปทาน THCOM น่าจะเร่งลดขนาดองค์กรให้สอดคล้องกับการมีเพียง THCOM7 และ 8 และใช้ฐานเงินสดในมือกว่า 6 พันล้านบาทเพื่อสร้างการเติบโตผ่านการพัฒนาธุรกิจใหม่เต็มตัว

 

 

--THCOM---

ไทยคมมีแผนการลงทุนในดาวเทียมดวงใหม่ราว 1-2 ดวง มูลค่าการลงทุนอย่างน้อย 100 ล้านเหรียญ และมีแผนการลงทุนใน New Business ราว 100 - 200 ล้านบาท  การบริหารดาวเทียวหลังหมดสัมปทานอยู่ระหว่างรอความชัดเจนจากภาครัฐ หน่วยงานใดจะเป็นผู้รับผิดชอบดาวเทียมที่มหมดสัมปทานในท้ายที่สุด ในทุกกรณีบริษัทฯมีพร้อมในการขอเข้าเป็นพันธมิตรกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อบริหารจัดการดาวเทียมหลังหมดสัมปทาน การจัดตั้งบริษัทย่อยร่วมกับกลุ่ม ปตท.สผ. ในการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโดรนเพื่อการเกษตร

 

โดยระยะแรกจะเน้นไปที่กลุ่มเกษตรกรเพื่อทำ Smart Farming จากนั้นจะพัฒนาข้อมูลเพื่อทำ Smart City ปัจจุบัน THCOM อยู่ในระหว่างการศึกษาธุรกิจ Low Earth Orbit หรือดาวเทียมวงโคจรต่ำ ธุรกิจนี้มีความน่าสนใจเพราะมีต้นทุนต่ำกว่าดาวเทียมค้างฟ้าและสามารถใช้งานได้หลากหลายกว่า เป็นการเติบโตในระยะถัดไปของอุตฯ ธุรกิจปัจจุบัน บริษัทฯคาดจะสามารถเพิ่ม Utilization rate ในดาวเทียมที่ไม่ขึ้นกับสัมปทานทั้ง THCOM7 และ THCOM8 ในระยะถัดไป โดยเฉพาะในตลาดอินเดีย

 

 

---ADVANC---

คาดตลาด Telecom ฟื้นตัวในช่วง 2H63 หนุนจากการแข่งขันที่ลดลงและปริมาณการใช้งาน Data ที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ปัจจุบัน ADVANC มีสถานีฐาน 5G มากกว่า 4,000 สถานี ครอบคลุมในหัวเมืองใหญ่และมีความพร้อมแล้วในการให้บริการ 5G ในนิคมอุตสาหกรรมตามเงื่อนไขการเข้าประมูลคลื่น
ADVANC จะเปิดตัว Package 5G ในช่วงเดือนต.ค.63 โดยจะเป็นลักษณะของการเพิ่มราคาสำหรับลูกค้าระดับบน หนุน ARPU Postpaid ฟื้นตัวต่อใน 4Q63 เปิดตัวธุรกิจ FWA (Fixed Wireless Access) หรือการให้บริการ Internet บ้านแบบไม่ต้องลากสาย

 

โดยจะเน้นเจาะตลาด Enterprise ในพื้นที่ที่ปกติลากสายไม่ได้ หรือ ไม่คุ้มค่า
เปิดตัวธุรกิจ MEC (Multi-access Edge Computing) เป็นการให้บริการเสริมสำหรับธุรกิจ OTT เช่น Netflix ซึ่งในระยะถัดไปต้องการความละเอียดในการส่งสัญญาณที่สูงขึ้นและ Latency ที่ต่ำลง จำเป็นต้องหาผู้ให้บริการส่งสัญญาณในประเทศเพิ่มเติม เป็นโอกาสทางธุรกิจใหม่

 

 

--INTUCH---

เงินลงทุนใน InVent ณ 2Q63 อยู่ราว 1.25 พันล้านบาท (+19% จากสิ้น 2562) โดยลงทุนรวม 23 บริษัท ลงทุนเพิ่ม 4 บริษัท ใน 1H63  ในช่วง 2H63 มีความสนใจลงทุนในธุรกิจ Fintech, Ed-tech, IoT/RPA, Logistic Tech