Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : IP ชูธง 3 ปี (63-65) รายได้โตไม่ต่ำกว่า 25%

1,359

HotNews : IP ชูธง 3 ปี (63-65) รายได้โตไม่ต่ำกว่า 25%

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (14 กันยายน 2563) "ดร.ทรงวุฒิ ศักดิ์ชลาธร" บิ๊ก IP มั่นใจผลงาน H2/63 โตต่อเนื่อง เล็งออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีกเพียบ ตั้งธง 3 ปี (63-65) รายได้โตไม่ต่ำกว่า 25% -กำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 50% พร้อมหาโอกาสทำดีล M&A ต่อเนื่อง

 

 

ดร.ทรงวุฒิ ศักดิ์ชลาธร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP เปิดเผยว่า บริษัทฯมั่นใจผลประกอบการครึ่งปีหลัง 2563 จะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่บริษัทฯมีรายได้ 200.21 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 30.80 ล้านบาท เนื่องจาก ในครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นไหมยกกระชับจากประเทศเกาหลี ที่บริษัทฯคาดหวังว่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทต่อปี ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการรักษาโรคตับ โรคภูมิแพ้ เป็นต้น

 

 

ขณะที่บริษัทฯตั้งเป้าในระยะ 3 ปี (2563-2565) จะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 25% ต่อปี พร้อมรักษากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 50% ซึ่งมาจากยอดขายของผลิตภัณฑ์เดิม รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯจะเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างจากท้องตลาดและมีมาร์จิ้นสูง พร้อมทั้งพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารไม่ให้เกิน 35%

 

 

นอกจากนี้บริษัทฯยังมองหาโอกาสในการเข้าซื้อกิจการ(M&A) ด้วยเช่นกัน โดยล่าสุดบริษัทฯได้เข้าไปซื้อโรงงานผลิตยาทั่วไปสำหรับรักษาคน รวมถึงจำหน่ายเครื่องมือแพทย์เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้น รวมถึงปัจจุบันยังอยู่ระหว่างจัดตั้งทีมภายใต้ความดูแลของบริษัทฯเอง เพื่อส่งผลิตภัณฑ์ไปยังร้านขยายยาทั่วไปตามหัวเมืองใหญ่ต่างๆทั่วประเทศ หลังมองว่ารูปแบบร้านขายดังกล่าวมีการเติบโตมากขึ้นในยุค new normal หลังประชาชนมีการเดินห้างสรรพสินค้าน้อยลง

 

 

พร้อมกันนี้บริษัทฯยังรุกการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ตามแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยไตรมาส2/2563 เห็นความเปลี่ยนแปลงมากสุดหลังจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ดร.ทรงวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมถึงการที่ตนเองนั้น จำหน่ายหุ้น IP ให้แก่ "นายธีรพงศ์ จันศิริ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU จำนวน 10.3 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 5% ว่า บริษัทฯนั้นคาดหวังเป็นอย่างมากที่จะอาศัยความชำนาญจาก TU ในเรื่องของการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายยังต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวแล้วตนนั้นก็มีนโยบายที่จะถือหุ้นของ IP ไม่ต่ำกว่า 40%

 

 

"ในแง่ของความร่วมมือของบริษัทฯกับ TU ขอให้เป็นเรื่องของอนาคตซึ่งจุดนี้มันมีโอกาสทั้งที่เกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ หากเกิดขึ้นจริงเราจะแจ้งให้ทราบทันที ซึ่งสิ่งที่เราคาดหวังมากจากการเข้ามาของคุณธีรพงศ์คือการขยายไปตลาดต่างประเทศเพราะบริษัทฯเชื่อว่าสินค้าเพื่อสุขภาพของเราไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน ซึ่งในกลุ่มประเทศที่เรามองไว้ว่าจะส่งออกไปคือ เกาหลี จีน ญี่ปุ่น และบางตลาดในกลุ่มยูโรเปียน ก็ขอบอกเลยว่าการที่เราจะมีพาร์ทเนอร์เข้ามาคือต้องช่วยต่อยอดธุรกิจของเราได้ " ดร.ทรงวุฒิ กล่าว

 

 

 

 

 

 


กูรูทรีนีตี้ แนะนำ "ซื้อ" IP ราคาเป้าหมาย 15.30 บาท/หุ้น

 

บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า แนะนำ "ซื้อ" IP ราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 15.30 บาท จากวิธี DCF และ P/E Ratio ความน่าสนใจในการลงทุนในหุ้น IP

 

1. รายได้เติบโตสม่ำเสมอ (CAGR) 22.5% ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา คาดอนาคตสดใส รายได้โตสูงต่อเนื่อง (CAGR) โตเฉลี่ย 29.3% ต่อปี จากทั้งผลิตภัณฑ์เดิมและใหม่ การซ้ำซื้อของลูกค้ารายเดิมและการขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะวิกฤตโควิด-19 เป็นโอกาสจากการที่ผู้บริโภคหันมาสนใจรักษาสุขภาพมากขึ้น

2. ปรับช่องทางขายเน้นออนไลน์มากขึ้น สามารถบริหารต้นทุนดีขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูง คาดอัตรากำไรขั้นต้นปรับขั้นมาเป็น 60% ในปี 2563 จาก 57.6% ในปี 2562 และคาด SG&A ต่อยอดขายมีแนวโน้มลดลง เหลือ 39% ในปี 2563 จาก 42.2% ในปี 2562 จากการบริหารภายในได้ดีขึ้น

3. ใช้เงิน IPO เข้าซื้อ โมเดิร์น ฟาร์มา เข้าสู่ธุรกิจต้นน้ำ หนุนรายได้ ประหยัดต้นทุน

4. กำไรโตดีสม่ำเสมอ โดยในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา (2560-2562) บริษัทมีกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี คาดกำไรสุทธิปี 2563 ปี 2564 และปี 2565 เท่ากับ 84 ล้านบาท 127 ล้านบาท และ 162 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ตั้งแต่ปี 2562-2565 ที่ 55.1% หรือเฉลี่ยระยะ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2560 - 2565 สูงถึง 59.5%

5. สถานะทางการเงินแข็งแกร่ง D/E Ratio ต่ำ เป็น Net Cash มีอัตราหนี้สินต่อทุนต่ำเพียง 0.02 เท่า แทบไม่มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย

 

 

แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 15.30 บาทต่อหุ้น เริ่มต้นด้วยคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายใหม่ปี 2564 ที่ 15.30 บาทต่อหุ้น อ้างอิงการเฉลี่ยราคา 2 วิธี ได้แก่ (1) วิธี DCF ราคา 15.20 บาทต่อหุ้น และ (2) วิธี P/E Ratio 25 เท่า ที่ราคา 15.40 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจเดียวกันในตลาด และยังเป็นหุ้น Undervalued ระดับ PEG ratio ต่ำเพียง 0.4 เท่า จาก Forward P/E ratio ราว 20.9 เท่า ณ ราคาปัจจุบันมี Upside ราว 18.4%

 

 

ความเสี่ยง: กำลังซื้อภายในประเทศชะลอตัว, การแข่งขันสูง

 

 

การประเมินมูลค่าหุ้น ใช้วิธีประเมินมูลค่าหุ้น IP วิธี DCF และ P/E Ratio และคำนวณราคาเป้าหมายปี 2564 เท่ากับ 15.30 บาทต่อหุ้น จากการเฉลี่ยราคา Valuation จากทั้งสองวิธีที่กรอบ 15.20 ถึง 15.40 บาท



อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

"สโตนวัน (STX)" ลั่นระฆังเทรด หุ้นเหมืองหินรายแรกในตลท.

"สโตนวัน (STX)" ลั่นระฆังเทรด หุ้นเหมืองหินรายแรกในตลท.

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้