HotNews: CRC มั่นใจ H2/63 คืนชีพ ผุดแคมเปญใหญ่ดันยอดขาย

 

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (2 กันยายน 2563) CRC อัด Central Retail Double Mega Sale มหกรรมช้อปปิ้งที่ดีที่สุดแห่งปี #ลดไม่เลือกหน้า ทั้งหน้าร้านและหน้าเว็บ กระตุ้นการใช้จ่ายหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นฟู ดัน H2/63 คืนชีพ พร้อมเผย โควิดดันยอดขายช่องทางออนไลน์ พุ่งแตะ 10-15% หลังปีก่อนต่ำกว่า10%

 

 

 

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (CRC) พร้อมตอกย้ำตัวจริงเรื่อง “ออมนิแชแนล” แห่งวงการรีเทล ประเทศไทย จัด Central Retail Double Mega Sale (เซ็นทรัล รีเทล ดับเบิ้ล เมกา เซลล์) มหกรรมช้อปปิ้งที่ดีที่สุดแห่งปีของ เซ็นทรัล รีเทล เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในหมู่ผู้บริโภคและหนุนเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นฟูในช่วง สี่เดือนสุดท้ายของปี เปิดตัวด้วยแคมเปญ Central Retail 9.9 Double Mega Sale (เซ็นทรัล รีเทล 9 เดือน 9 ดับเบิ้ล เมกา เซลล์) #ลดไม่เลือกหน้า ทั้งหน้าร้านและหน้าเว็บ อัดโปรโมชั่นพิเศษ ลดสูงสุด 90% ขนทัพสินค้าคุณภาพกว่า 1,000,000 รายการ จากมากกว่า 1,000 ร้านค้าในอาณาจักรเซ็นทรัล รีเทล และกลุ่มเซ็นทรัล ให้ลูกค้าได้ช้อปอย่างจุใจ การันตีของแท้ 100% พร้อมความคุ้มค่าแบบดับเบิ้ล ๆ เสริมประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อของลูกค้าด้วย Dual Platform คาดแคมเปญนี้จะสร้างเงินสะพัดในกลุ่มธุรกิจเพิ่มขึ้นจากแคมเปญในปีก่อนกว่า 1,000 ล้านบาท และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของครัวเรือนไทยตีเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท

 

 

นายนิโคโล กาลันเต้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) CRC เปิดเผยว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการก้าวเข้าสู่ยุคอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มตัว การใช้จ่ายทางช่องทางออนไลน์ของผู้บริโภคไทย มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างมากและทั่วถึงในกลุ่มลูกค้าทุกเจเนเรชั่น

 

 

“จากสถานการณ์หกเดือนที่ผ่านมา ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันหันมาช้อปออนไลน์อย่างถล่มทลาย ทำให้มียอดการเข้าซื้อสินค้าทางเว็บไซต์อีคอมเมิร์ชในเครือเซ็นทรัล รีเทล เติบโตมากยิ่งขึ้นในทุกกลุ่มสินค้า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าของใช้จำเป็น, อุปกรณ์กีฬา, เครื่องสำอาง, สินค้าแฟชั่น, ของตกแต่งบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้า แพลตฟอร์มดิจิทัลที่หลากหลายช่องทางของเราสร้างยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 350% ในไตรมาสที่สองของปี 2563 (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน) แคมเปญลดราคาส่งท้ายปี Central Retail Double Mega Sale ที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายนถึงธันวาคมนี้ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในช่วงสี่เดือนสุดท้ายของปีให้กลับมาฟื้นฟู และช่วยให้ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันได้เลือกช้อปสินค้าคุณภาพสำหรับทุกคนในครอบครัวในราคาสุดคุ้มค่า พร้อมข้อเสนอที่ดีที่สุด และบริการที่ตรงใจ โดยเริ่มคิกออฟที่เดือนกันยายนด้วยแคมเปญ Central Retail 9.9 Double Mega Sale #ลดไม่เลือกหน้า ทั้งหน้าร้านและหน้าเว็บ ลดสูงสุด 90% รวมสินค้ากว่า 1,000,000 รายการ จากร้านค้ามากกว่า1,000 แห่งทั่วประเทศในเครือเซ็นทรัล รีเทล และกลุ่มเซ็นทรัล ด้วยการเชื่อมต่อประสบการณ์ช้อปปิ้ง ให้ลูกค้าได้คุ้มค่าแบบดับเบิ้ล เช่น การใช้ส่วนลดจากใบเสร็จหน้าร้าน ไปใช้ลดต่อที่หน้าเว็บไซต์ รวมถึงการสั่งซื้อด้วยบริการ Click & Collect (บริการคลิกสั่งซื้อหน้าเว็บ แล้วไปรับที่หน้าร้าน) จะได้รับคูปองส่วนลดเพิ่มคูณสอง โดยสินค้าทุกรายการการันตีของแท้ 100% เพราะจุดประสงค์หลักของแคมเปญนี้ คือการที่เราอยากส่งมอบสินค้าและบริการที่ดี ในราคาที่ย่อมเยาให้ลูกค้าของเราได้เลือกซื้อกันอย่างมีความสุข”

 

 

“สำหรับแคมเปญนี้ เราได้ ป๊อก-ภัสสรกรณ์ และมาร์กี้-ราศรี บาเล็นซิเอก้า จิราธิวัฒน์ มาเป็นแคมเปญแอมบาสเดอร์ เพราะเป็นตัวแทนของครอบครัวรุ่นใหม่ ซึ่งมองหาแพลตฟอร์มการซื้อสินค้าที่หลากหลาย สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของยุคปัจจุบัน ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และเชื่อถือได้ ไม่ว่าจะเลือกซื้อสินค้าที่ร้านค้าหรือช้อปผ่านออนไลน์ก็ตาม ดังนั้นจึงสามารถสะท้อนถึงบริการออมนิชาแนลที่ครบวงจรของบริษัทได้เป็นอย่างดี”

 

 

นิโคโล เผยแคมเปญ Central Retail Double Mega Sale ประกอบไปด้วยโปรโมชั่นในแต่ละเดือน โดยเริ่มจาก 9.9, 10.10, 11.11, และ12.12 ลดจัดหนักแบบดับเบิ้ล ๆ ผสานบริการต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่สมบูรณ์แบบตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและไร้รอยต่อ ด้วย Dual Platform จากร้านค้าในอาณาจักรเซ็นทรัล รีเทล และกลุ่มเซ็นทรัล ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, โรบินสัน, ซูเปอร์สปอร์ต, เพาเวอร์บาย, ซีเอ็มจี (สาขาที่ร่วมรายการ), ไทวัสดุ, บ้านแอนด์บียอนด์ และบีทูเอส ผ่านบริการ Call & Shop, Chat & Shop ที่ LINE Official Account หรือ LINE ของสาขา (LINE Store), Facebook Live, Click & Collect, E-ordering หรือช้อปผ่านเว็บไซต์ได้ทุกที่ทุกเวลา 24 ชั่วโมง พร้อมบริการสุดพิเศษต่าง ๆ ทั้ง Free Delivery และรับ/คืนสินค้าได้ที่ร้านค้าที่ร่วมรายการมากกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ

 

 

 

 

 

นอกจากนี้ยังเสริมแกร่งความคุ้มค่าด้วยการผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์ในเครือกลุ่มเซ็นทรัล นำโดยศูนย์การค้าของเซ็นทรัลพัฒนาทั้ง 33 สาขาทั่วประเทศ ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา, เซ็นทรัลเฟสติวัล, เซ็นทรัล ภูเก็ต, และเซ็นทรัลวิลเลจ รวมทั้งกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ ที่พร้อมใจกันมอบสิทธิประโยชน์สุดพิเศษให้แก่ลูกค้า ดังนี้

• เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป: เอาใจคนชอบกิน ด้วยโปรโมชั่นอิ่มคุ้มราคาเดียว 99 บาท จากร้านแบรนด์ดังมากกว่า 500 สาขา ได้แก่ Mister Donut, Pepper Lunch, Chabuton Ramen, Thai Terrace, Ootoya และอร่อยดี เริ่มแจกคูปอง วันที่ 7-9 กันยายน และใช้คูปองได้ตั้งแต่วันที่ 9 - 13 กันยายน 2563 นี้

• เซ็นทารา: ขนโรงแรมทุกแห่งในเครือเซ็นทารา ประเทศไทยมาลดกระหน่ำค่าห้องพัก เริ่มต้นที่ 960 บาทต่อคืน พร้อมข้อเสนอพิเศษแบบดับเบิ้ล เมื่อพักครบ 4 คืนขึ้นไป รับฟรีอาหารเช้า และอาหารเย็น ตลอดระยะเวลาเข้าพัก โดยสามารถจองห้องพักได้ตั้งแต่วันนี้ และใช้ได้ถึงเดือนมีนาคม 2564 นอกจากนี้ยังมีคูปองเงินสดที่จำหน่ายในราคา 1,000 บาท แต่ใช้เป็นส่วนลดค่าห้องพักที่โรงแรมในเครือเซ็นทาราได้ถึง 1,250 บาท โดยซื้อคูปองได้ตั้งแต่วันที่ 8 - 10 กันยายน และใช้คูปองได้ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน – 31 มกราคม 2564

• The 1: มอบสิทธิพิเศษให้สมาชิก แลกคะแนน The 1 เพียง 99 คะแนน รับส่วนลดช้อปต่อ 100 บาท (แลกคะแนนผ่านแอปพลิเคชัน The 1 ตั้งแต่วันที่ 7-9 กันยายน สามารถใช้ส่วนลดได้วันที่ 9 กันยายนเท่านั้น)

• บัตรเครดิตเซ็นทรัล The 1: มอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าที่ใช้จ่ายผ่านบัตรครบ 990 บาทขึ้นไป ที่หน้าร้านและหน้าเว็บที่ร่วมรายการ รับคะแนน The 1 ถึง 990 คะแนน เฉพาะวันที่ 9 กันยายนนี้เท่านั้น

• ดอลฟิน วอลเล็ท: ชวนลูกค้าสัมผัสประสบการณ์การใช้จ่าย รูปแบบใหม่ไร้เงินสด พร้อมมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าที่จ่ายด้วย ดอลฟิน วอลเล็ททุก ๆ 500 บาท รับคะแนน The 1 เพิ่ม 99 คะแนน สูงสุด 990 คะแนน และลูกค้าที่ผูกบัตรเครดิตเซ็นทรัลเดอะวัน สะสมได้เพิ่มอีกสูงสุดถึง 5 เท่า พร้อมมอบคูปองส่วนลด ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, โรบินสัน, ซูเปอร์สปอร์ต, เพาเวอร์บาย, ซีเอ็มจี (สาขาที่ร่วมรายการ), บีทูเอส, ไทวัสดุ และบ้านแอนด์บียอนด์ ตั้งแต่วันที่ 9-13 กันยายนนี้

สามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับแคมเปญ Central Retail 9.9 Double Mega Sale ของเซ็นทรัล รีเทล ได้ทางเว็บไซต์ www.centralretail.com/99DoubleMegaSale และที่หน้าร้านของร้านค้าในอาณาจักรเซ็นทรัล รีเทล และกลุ่มเซ็นทรัลที่ร่วมรายการได้ตั้งแต่ 1-13 กันยายน 2563

 

 

 

 

 

*** CRC มั่นใจ H2/63 ฟื้นตัว ***

 

นายนิโคโล กาลันเต้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) CRC เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดว่าภาพรวมประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 จะมีทิศทางที่ดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก หลังจากที่ผ่านมามีการปิดห้างสรรพสินค้าไปตามมาตรการของรัฐบาลเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื่อโควิด-19 แต่ในช่วงไตรมาสที่3/63 ได้มีการคลายล็อคดาวน์แล้ว ทำให้เริ่มมีการเปิดทำการของห้างร้านต่างๆตามปกติ ส่งผลให้ลูกค้าเริ่มทยอยกลับเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น

 

อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้คือกำลังซื้อของประชาชนที่ลดลงทำให้เริ่มมีการระมัดระวังในการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้นจึงทำให้บริษัทใช้กลยุทธ์ลดราคาสินค้าผ่านแคมเปญ Central Retail Double Mega Sale เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าซื้อสินค้ามากขึ้นในราคาที่ลดลง ซึ่งคาดหวังว่าแคมเปญดังกล่าวจะกระตุ้นให้มีรายได้กลับเข้ามาในบริษัทแตะที่ระดับ 2,000ล้านบาท และยังเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่มีภาระค่าใช้จ่ายและรายได้ที่ลดลงในช่วงวิกฤตินี้ให้สามารถจับจ่ายใช้สอยได้คล่องมากขึ้น นอกจากเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทแล้วยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศอีกด้วย

 

 

ด้านแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง2563 บริษัทจะมุ่งมั่นในการทำการขายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทจะใช้งบลงทุนบางส่วน ปรับปรุงและพัฒนาด้านเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น และตั้งเป้าหมายว่าจะมีสัดส่วนรายได้ผ่านช่องทางออนไลน์แตะที่ระดับ10-15% จากปกติที่ผ่านมามีสัดส่วนต่ำกว่าระดับ 10% และคาดว่าในปีนี้จะมี ยอดขายผ่านช่องทางนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า เป็น3ล้านคน ซึ่งเป็นยอดที่บริษัทมีการตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะสามารถทำได้สำเร็จภายใน3-5ปีข้างหน้า แต่เนื่องด้วย สถานการณ์โควิด-19 เกิดขึ้น ทำให้ช่วงเวลาที่ผ่านมาพบว่า ลูกค้ามีการสั่งซื้อสินค้าของทางบริษัทผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมอย่างมีนัยสำคัญ จึงคาดว่าจะสามารถทำมีผู้ใช้บริการตามเป้าหมาย 3,000,000 คน ได้ภายในปีนี้ เร็วกว่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้มาก จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีผู้ใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ จำนวน 1,000,000 คน

 

 

นอกจากนี้ บริษัทยังคงดำเนินการลงทุนในประเทศเวียดนามตามแผนเดิม โดยบริษัทมองว่าพื้นฐานเศรษฐกิจในเวียดนามมีความแข็งแรง ประกอบกับกลุ่มลูกค้าในเวียดนามค่อนข้างมีกำลังซื้อที่ดี และเป็นประเทศที่รับมือกับโควิด-19ได้ดี จึงมองว่าเป็นโอกาสดีที่จะขยายธุรกิจต่อไปในช่วงนี้

 

 

ขณะที่มีการชลอการลงทุนในประเทศไทยออกไปก่อน เนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจที่ยังมีความน่าเป็นห่วง ทั้งกำลังซื้อของประชาชน และสถานการณ์โควิด-19ที่ยังต้องติดตาม อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงดำเนินแผนปรับปรุง โรบินสันสาขา เมกาบางนา ให้กลาย เป็นห้างสรรพสินค้าเซนทรัล เมกาบางนา ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบพื้นที่ให้กลายห้างที่มีไลฟ์สไตล์ เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ในย่ายนั้น และ มีการปรับปรุงสาขา ของ ไทวัสดุบางสาขา ให้มีความพร้อมมากยิ่งขึ้น และจะมีการปรับปรุง ห้างสรรพสินค้า รินาเชนเต ในเครือของเซนทรัลที่ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี โดยส่วนอื่นๆที่เหลือที่เป็นการลงทุนและพัฒนาโครงการในแถบยุโรปจะชลอออกไปก่อนจนกว่าสถานการณ์โควิด-19ในแถบนั้นจะคลี่คลาย

 

 

 

 

สำหรับภาพรวมของรายได้บริษัทที่ผ่านมา พบว่า บริษัทมีสัดส่วนรายได้ทั้งหมด แบบเป็นรายได้จากสินค้าประเภท Food สัดส่วน 30% และ Non Food 70% และปัจจุบันมีสัดการขายทั้งหมดผ่านช่องทางออนไลน์ราว 10% โดยในปีนี้บริษัทจะมีการใช้กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มออมนิแชแนลเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งช่วยเสริมและกระตุ้นรายได้ผ่านช่องทางการขายออนไลน์ให้เติบโตยิ่งขึ้น

 

 

“สถานการณ์ในประเทศตอนนี้ ผมมองว่าเริ่มมีสภาวะที่กลับมาฟื้นตัวบ้างแล้ว แต่ยังไม่ถือว่าเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากยังขาดปัจจัยทางด้านของกำลังซื้อจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังไม่สามารถกลับเข้ามาในประเทศไทยได้ แต่อย่างไรก็ตามการจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ ก็ยังมองว่าต้องเป็นเรื่องที่ค่อยๆดำเนินการไปอย่างระมัดระวัง หากเร่งปฏิบัติอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาด และร้ายแรงที่สุดอาจมีการระบาดรุนแรงของโควิด-19 ระลอก2 ซึ่งอาจจะเกินกว่าที่จะรับมือได้ จึงหวังว่ารัฐบาลจะให้การช่วยเหลือประชาชนภายในประเทศก่อน ให้มีกำลังซื้อมีเงินมาใช้จ่ายมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้ไปต่อได้” นายนิโคโล กล่าว

 

 

ทั้งนี้ บริษัทยังต้องทบทวนแผนการลงทุนทุกๆเดือน และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์แผนงานให้เข้ากับสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่ผันผวน