
วันที่ 20 สิงหาคม 2563 พบกับนายกล้วยหอมได้ที่ www.hooninside.com (Line : @hooninside) รู้ลึกรู้จริงคลุกวงในหุ้นสไตล์กล้วยๆ
นายกล้วยหอม เห็นวานนี้ ต่างชาติ หอบหุ้น ถล่มขายกว่า 4 พันล้านบาท แล้ว ก็เป็นอะไรที่บอกไม่ถูก ตลาดหุ้นไทย คงขึ้นยาก เล่นกันในกรอบ สำหรับนักลงทุนในประเทศ (กองทุน-รายย่อย) วานนี้ พรรคภูมิใจไทย สนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญและยุบสภา พร้อมเรียกร้องหยุดคุกคามผู้เห็นต่าง +ข่าว พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 1 ราย หลังพ้นระยะกักตัว
ฝั่งปัจจัยภายนอก ก็ต้องรอดู รายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)ว่า มีเนื้อหาอย่างใด มองเศรษฐกิจอย่างไร บนความความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ยอมรับว่า ตนเป็นฝ่ายยกเลิกการเจรจาการค้ากับจีนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
วานนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,308.67 จุด ลดลง 21.44 จุด หรือ 1.61 % มูลค่าการซื้อขาย 57,283.62 ล้านบาท สรุปสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 1,042.41 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 56.81 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 4,026.39 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศซื้อสุทธิ 3,040.80 ล้านบาท
ETC เทรดวันที่ 2 ฟลอร์ ( ทาง กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ นำโดย บมจ. เบตเตอร์เวิลด์กรีน (BWG) และ บมจ. อัคคีปราการ (AKP) ซึ่งถือหุ้นรวมกว่า 70% ใน ETC ยืนยันหนักแน่น ว่ายังถือหุ้นอยู่ครบ และไม่มีนโยบายที่จะขายหุ้นออกมา เนื่องจากมั่นใจในพื้นฐานธุรกิจโรงไฟฟ้าที่มั่นคงมาก และมีศักยภาพสูงที่จะได้โรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม เพิ่มเติมตามที่ภาครัฐ ระบุว่าจะเปิดเพิ่ม 75 เมกะวัตต์ในปีนี้…ซึ่ง ETC เป็น 1 ในตัวเก็งที่คาดว่ามีโอกาสชนะสูง เพราะ BWG บริษัทแม่ มีปริมาณขยะอุตสาหกรรมมากที่สุดในประเทศ….นักลงทุนได้ข้อมูลจริงชัดๆแบบนี้ …มั่นใจได้ 100% นะค่ะ
BWG ฟลอร์วันที่ 2 สองฟลอร์ บอกได้เลย ใจร้ายมากมาย ถล่มขาย เหมือนกิจการจะไปไม่รอด ทั้งที่ ความจริง กิจการยังไปได้ดีต่อเนื่อง เห็นอย่างนี้แล้ว นายกล้วยหอม ขอเป็นฝ่ายชม เป็นกองเชียร์ และให้กำลังใจ ผู้ถือหุ้นทุก ก๊าบ
ก.ล.ต.นับหนึ่งแบบไฟลิ่ง "เวล เกรด เอ็นจิเนียริ่ง" (WGE) ผู้ให้บริการธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 160 ล้านหุ้น ระดมทุนเพื่อนำเงินไปใช้ในการขยายธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และขยายคลังสินค้า รวมถึงรองรับแผนการดำเนินงานโครงการต่าง ๆ ในอนาคต โดยคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ภายในปี 2563
STGT บวกต่อเนื่อง วานนี้ นับเป็นข่าวเด่น ยืนปิดที่ 78.25 บาท บวก 3.25 บาท คิดเป็น4.33% วันนี้ ติดเครื่องแบบมีพักหรือไม่ ชวนให้ติดตาม ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นSTGT
วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ออกแถลงการณ์ การแถลงข่าวในช่วงเวลา ตามที่ปรากฎในสื่อต่างๆ นั้น เป็นบทบาทที่ดำเนินการในฐานะส่วนตัวของคุณณพ ณรงค์เดช ประธานกรรมการบริหาร ที่จะพิจารณาความเหมาะควรของข้อมูลด้วยตนเองทางบริษัทฯ ยังไม่ได้มีนโยบายในการแถลงข่าวใดๆ รวมถึงเนื้อหาข่าวตามที่ปรากฏในสื่อต่างๆก่อนหน้านี้ด้วย
การบินไทย THAI ยืนยัน ไทยสมายล์ยังเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัท การบินไทยฯ ซึ่งมีความพร้อมในการให้บริการทั้งภายในประเทศและภูมิภาค ขอให้ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตร เจ้าหนี้ ผู้ถือหุ้น รวมทั้งสาธารณชนเชื่อมั่นว่าบริษัทฯ จะจัดทำแผนการกำกับดูแลบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ฯ ให้สามารถดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถทำกำไรได้ต่อไป
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เผย หลังจากนี้ตลาดหุ้นไทยคงปรับตัวขึ้นได้ยาก เป็นเพราะหากกำไรบริษัทจดทะเบียนยังถูกปรับลดลง ระดับการประเมินมูลค่าหุ้นไทยก็จะยิ่งแพงขึ้น โดยปัจจุบันคิดเป็นค่าเฉลี่ยอัตราราคาต่อกำไรล่วงหน้า (Fwd. PER) ปีนี้ และปีหน้าอยู่ที่ 22.5 เท่า และ 17.4 เท่า ตามลำดับ ถือว่าสูงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยที่อยู่ประมาณ 15-16 เท่า ดังนั้น ผลพวงจากการปรับประมาณการกำไรตลาดลง บล.ทิสโก้จึงได้ปรับลดเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้ลงจาก 1,440 จุด เป็น 1,400 จุด และปรับเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปีหน้าลงจาก 1,580 จุด เป็น 1,535 จุด และหากเทียบกับระดับดัชนี ณ ปัจจุบัน จะคิดเป็นโอกาสการปรับขึ้น (Upside) ในปีนี้ค่อนข้างจำกัดที่ 5% และปีหน้าที่ประมาณ 15%
โดยธีมหุ้นที่น่าสนใจในระยะสั้น คือ 1. หุ้นที่เห็นสัญญาณตลาดปรับประมาณการกำไรขึ้นในระยะสั้น ได้แก่ SENA, TRUE, และ TU 2. หุ้นที่งบ Q2 เป็นจุดต่ำสุด แนวโน้มครึ่งปีหลังฟื้นตัวต่อเนื่องและปีหน้าจะกลับมาโตกว่าช่วงก่อน COVID-19 ได้แก่ BJC, ILINK, PLANB และ WHA และ 3. หุ้นแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังยังดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก ได้แก่ CPF, PRM, RS และ SMPC
สำหรับสไตล์การลงทุนแบบระยะกลาง-ยาว แนะนำหาจังหวะสะสมช่วงอ่อนตัว ธีมหุ้นที่น่าสนใจ 1. กลุ่มอุตสาหกรรมที่มักแข็งแกร่งกว่าตลาดในช่วงการเมืองร้อน ได้แก่ หุ้นกลุ่ม COMM แนะนำ BJC, CPALL, HMPRO และ RS หุ้นกลุ่ม FOOD แนะนำ CPF, GFPT และ TVO และหุ้นกลุ่ม ETRON แนะนำ DELTA และ HANA 2. หุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจ-สังคม 4 แสนล้านบาท และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ CK, SEAFCO และ TASCO 3. หุ้นปันผลดี ได้แก่ AP, BBL, DIF, KKP, LH, QH, SCCC, SMPC และ TVO และ 4. หุ้นรอลุ้นวัคซีน ฟื้นตัวจากฐานราคาและกำไรที่ต่ำ ได้แก่ AOT, BDMS, CENTEL, CPN, CRC และ SPA
***การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน***