Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : TK กระสุนพร้อมขยายธุรกิจ กระแสเงินสดแกร่ง 1.2 พันลบ.

1,815

HotNews : TK กระสุนพร้อมขยายธุรกิจ กระแสเงินสดแกร่ง 1.2 พันลบ.

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (18 สิงหาคม 2563) TK ชูกระแสเงินสดแกร่ง 1.2 พันลบ. พร้อมเดินหน้าปั้มสัดส่วนรายได้ตปท. แตะ 50% จากปัจจุบัน22% พร้อมวางนโยบายบริหารงานท่ามกลางโควิด-19 เพิ่มความระมัดระวังปล่อยสินเชื่อ เพื่อควบคุมคุณภาพลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่เน้นคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ

 

 

นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง โดยมีฐานทุนอยู่ที่ 5 พันล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 0.6 เท่า และ ณ สิ้นไตรมาส 2/63 บริษัทฯ มีเงินสดประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการนำไปชำระคืนหุ้นกู้ประมาณ 800 ล้านบาท รวมถึงชำระค่าหุ้นในการซื้อกิจการ MFIL ในประเทศเมียนมา โดยใช้เงินประมาณ 400 ล้านบาท และรองรับแผนขยายธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เพิ่มเติม จากปัจจุบันที่ขยายไปในกัมพูชา และลาวแล้ว โดยบริษัทฯ เชื่อว่าในตลาดในต่างประเทศยังมีโอกาสขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันสัดส่วนสินเชื่อในต่างประเทศเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 22% ซึ่งบริษัทฯ มีเป้าหมายจะผลักดันให้ถึงระดับ 50%

 

 


ด้านนายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะใช้มาตรการที่เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อและการควบคุมคุณภาพลูกหนี้ ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 รวมถึงเน้นการบริหารจัดการ ควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ แต่หากสถานการณ์เอื้ออำนวยบริษัทฯ ก็มีความพร้อมจะขยายธุรกิจตามแผนได้ทันที จากปัจจุบันที่มีสาขาในประเทศ 75 สาขา ใน 57 จังหวัดทั้วประเทศ และมีสาขาที่กัมพูชา 12 สาขา ส่วนที่ลาวมี 3 สาขา

 

 

 

 


ทั้งนร่ TK รายงานงบการเงินสำหรับรอบบัญชีสิ้นสุด 30/6/2563 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,363.2 ล้านบาท ลดลง 29.8% จาก 1,942.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 153.0 ล้านบาท ลดลง 33.5% จาก 230.0 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนช่วงเวลาเดียวกัน โดยในไตรมาส 2/2563 มีกำไรสุทธิ 52.3 ล้านบาท ลดลง 55.3% จาก 117.1 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน และรายได้รวม 622.3 ล้านบาท ลดลง 35.3% จาก 962.5 ล้านบาท โดยมีลูกหนี้เช่าซื้อและลูกหนี้เงินให้กู้ยืมสุทธิรวม 5,886.1 ล้านบาท ลดลง 20.9% จาก 7,438.6 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2562 จากนโยบายเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อต่อเนื่องมา 7 ไตรมาส และในไตรมาส 2/2563 ที่ผ่านมา ยังได้มีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 200,000 ราย

 

 


"ผลประกอบการดังกล่าว เป็นการตั้งสำรองโดยใช้มาตราฐานบัญชี TFRS 9 ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ตั้งสำรองตามข้อผ่อนปรนการจัดชั้นลูกหนี้ตามแนวปฏิบัติทางการบัญชี บริษัทฯ จะมีกำไรครึ่งปีแรก 256.6 ล้านบาท หรือโตขึ้น 12% อย่างไรก็ตาม ไตรมาสที่ผ่านมา ธุรกิจส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงลูกค้าบางส่วนของ TK บริษัทฯ จึงได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้า โดยแบ่งเป็น 4 มาตรการหลัก คือ 1) การหยุดพักชำระหนี้ค่างวด 2) การลดยอดผ่อนชำระค่างวดลงให้อยู่ในระดับขั้นต่ำตามที่กำหนด 3) การให้ส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมจากอัตราปกติสำหรับลูกหนี้ที่ต้องการปิดยอดคงค้างของบัญชีก่อนกำหนด และ 4) การให้ความคุ้มครอง Covid-19 สำหรับลูกค้าที่ยังคงชำระค่างวดเต็มได้ตามเดิม ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้าโดยส่วนใหญ่ยังมีการชำระเต็มจำนวนเฉลี่ยสูงถึง 74.6% จึงทำให้บริษัทฯ สามารถเก็บค่างวดคิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยสูงถึง 87.4% ในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งสูงกว่าที่บริษัทฯ ได้คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมในทุก ๆ ด้าน ในกรณีที่สถานการณ์ดังกล่าวยังคงยืดเยื้อ โดยจะใช้มาตรการที่เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อและการควบคุมคุณภาพลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง ควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ ควบคู่กับการนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งบริหารจัดการแหล่งต้นทุนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทในระยะยาวต่อไป" นางสาวปฐมา กล่าว

 

 

 


สำหรับผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2/2563 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 52.3 ล้านบาท ลดลง 55.3% จาก 117.1 ล้านบาท และรายได้รวม 622.3 ล้านบาท ลดลง 35.3% จาก 962.5 ล้านบาท ส่วนรายได้เช่าซื้อ มีจำนวน 514.9 ล้านบาท ลดลง 33.8% จาก 778.4 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ครึ่งปีแรกในปี 2563 มีจำนวน 732,636 คัน ลดลง 18.1% จาก 894,148 คัน และยอดจำหน่ายรถยนต์ครึ่งปีแรกในปี 2563 มีจำนวน 328,604 คัน ลดลง 37.2% จาก 523,770 คัน ส่วนของรายได้อื่น ๆ ในไตรมาส 2 มีจำนวน 104.1 ล้านบาท ลดลง 42.0% จาก 179.6 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน อันเป็นผลมาจากมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าในช่วง Covid-19 โดยบริษัทฯ ได้ยกเว้นเบี้ยปรับต่าง ๆ และค่าติดตามทวงถาม ในช่วงเวลาดังกล่าว

 

 

"ในสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย TK หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าในพอร์ต ควบคู่กับการควบคุมค่าใช้จ่าย และการนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ค่าใช้จ่ายรวมในไตรมาส 2/2563 ลดลง 30.6% จาก 779.5 ล้านบาท เป็น 540.6 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังคงควบคุมต้นทุนทางการเงินตามกลยุทธ์ที่กำหนดไว้ โดยในไตรมาส 2/2563 มีต้นทุนทางการเงินจำนวน 21.3 ล้านบาท ลดลง 37.9% จาก 34.3 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากมีการใช้วงเงินกู้ลดลง เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ประกอบกับมีการบริหารจัดการแหล่งต้นทุนทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ โดย ณ สิ้นไตรมาส 2 นี้ บริษัทฯ มีสถานะเงินสดอยู่ที่ระดับประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีความพร้อมที่จะสามารถนำไปชำระคืนหุ้นกู้ ชำระค่าหุ้นในการซื้อกิจการ MFIL ในประเทศเมียนมา และพร้อมกลับมาเร่งทำตลาดเพื่อขยายตัวในประเทศ เมื่อสถานการณ์ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นทันที" นายประพลกล่าวเพิ่มเติม

 

 

 

 


นายประพลกล่าวเสริมว่า แม้ว่าผลประกอบการในประเทศไทยจะหดตัว แต่ผลประกอบการในต่างประเทศของ TK ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสัดส่วนสินเชื่อในต่างประเทศเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 22% ณ สิ้นไตรมาส 2 ของปี 2563 โดยมาจากประเทศกัมพูชาเป็นหลักที่ระดับ 19% และคาดว่าสัดส่วนสินเชื่อในต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% ในสิ้นปี 2563 นี้

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

SNNP รับรางวัล Supplier ดีเด่นจากแม็คโคร

SNNP รับรางวัล Supplier ดีเด่นจากแม็คโคร

PTG ลงนาม MOU กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคีเครือข่าย ร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน

PTG ลงนาม MOU กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคีเครือข่ายร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน

เก็งหุ้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อยขี่ไม้กวาดวิเศษ ภาคเช้าที่ผ่านมา หุ้นไทยแกว่งขึ้น ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนการเล่นการเทรดเป็นไปตามแรง...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้