วันที่ 23 กรกฎาคม 2563 พบกับแม่มดน้อยได้ที่  www.hooninside.com (Line : @hooninside) รู้ลึกรู้จริงคลุกวงในหุ้นสไตล์กล้วยๆ

          โอมมะลึกกึ๊กกึ๋ยย์ มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์....... เพี้ยงแม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ  ด้วยปัจจัย สหรัฐ-จีน มีประเด็นปิดปิดสถานกงสุล โดย รัฐบาลสหรัฐ สั่งปิดสถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตัน  บนข้อกล่าวหาที่ว่าจีนกระทำการโจรกรรมข้อมูลลับ และมีข่าว รัฐบาลจีนอาจจะสั่งลดจำนวนเจ้าหน้าที่สถานกงสุลสหรัฐในฮ่องกง เพื่อตอบโต้+รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาที่จะปิดสถานกงสุลสหรัฐในเมืองอู่ฮั่น  ทำให้นักลงทุนทั่วโลก เฝ้าติดตาม  รอดูสถานการณ์และชะลอลงทุน...

          ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งทะลุ 15 ล้านรายแล้ว ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์เตือนว่า การแพร่ระบาดจะเลวร้ายลงอีกก่อนที่สถานการณ์จะดีขึ้น

          ปิดตลาดเช้า ดัชนีตลาดอยู่ที่1,355.40 จุด ลดลง1.64 จุด คิดเป็น0.12%  มูลค่าการซื้อขาย 36,403.52 ล้านบาท

          แบงก์ ประกาศงบไตรมาส2และครึ่งปีมากันครบแล้ว พ่อมดน้อย ดินแดนซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เผยงบ Q2/20 ของบริษัทไม่ใช่สถาบันการเงินในตลาดหุ้นไทย น่าจะทยอยประกาศในต้นเดือนหน้า ซึ่งเราคาดว่าจะแย่กว่า Q1/20 และ Q2/19 โดยตอนนี้อัตราการทำกำไรต่อหุ้นทั้งตลาดใน Q2/20 จากฐานของ IBES รวม 70 บริษัทติดลบ -37%(YoY)

          แม่มดน้อย เห็น จำเริญ พูลวรลักษณ์  ประธานกรรมการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) MJD แจ้ง  นางสมเวียง พูลวรลักษณ์  คู่สมรส/ผู้ที่อยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา ขายหุ้นMJD ออกมาอย่างต่อเนื่อง แบบว่า รินขายๆ ทำให้เหลือหุ้นอีกแค่29,100,000 หุ้น หลังจาก 21ก.ค.63 ขายหุ้นMJD จำนวน  1,123,700 หุ้น ราคา1.60 บาท/หุ้น ส่วนพี่น้อง ตระกูลพูลวรลักษณ์ ยืนตามองปริบๆ  ...สำหรับแม่มดน้อย  ก็ยืนตามองปริบๆด้วย เช่นกันค่ะ

          ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท อีสต์โคสท์ เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) ECF ที่ระดับ "BB+" ในขณะเดียวกันได้เปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทเป็น "Negative" หรือ "ลบ" จาก "Stable" หรือ "คงที่" ด้วย โดยแนวโน้มอันดับเครดิต "Negative" หรือ "ลบ" สะท้อนถึงความเป็นไปได้ที่ภาระหนี้สินของบริษัทจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอันเป็นผลมาจากสินค้าคงคลังที่ยังอยู่ในระดับสูงและแผนการขยายการลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้า ทั้งนี้ แนวโน้มที่บริษัทจะต้องกู้ยืมเงินก้อนใหม่เพื่อนำมาใช้สำหรับการลงทุนในระยะที่เหลือของโครงการมินบูนั้นจะเป็นปัจจัยลบที่จะส่งผลให้สถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอยิ่งขึ้น

          GULF อนุมัติเพิ่มทุนไม่เกิน 1,066,650,000 หุ้น เสนอขาย RO 10 :1 ที่ราคาหุ้นละ 30 บาท แจงนำเงินเพิ่มทุน ลงทุนโครงการพลังงานในเวียดนาม ,พลังงานลมในเยอรมนี ,โครงการมาบตาพุดระยะที่ 3(ช่วงที่ 1)ฯ พร้อม มองโอกาสในการขยายธุรกิจเอเชีย ยุโรป อเมริกา

          ทรีนีตี้ ระบุ   การลดสัดส่วนการถือครองหุ้น GULF และ BGRIM ของ Asian Development Bank หรือ ADB โดยในส่วนของ GULF นั้น จะลดการถือครองลง 176 ล้านหุ้น (1.7%) และมีราคาขาย Discount จากราคาตลาดล่าสุดประมาณ 4-5% ส่วนทางด้าน BGRIM นั้น จะลดสัดส่วนลง 68 ล้านหุ้น (2.6%) และมีราคาขาย Discount จากราคาตลาดล่าสุดประมาณ 4.2-5.5% มองเป็น Sentiment เชิงลบต่อราคาหุ้นทั้ง 2 บริษัทเล็กน้อยในช่วงเปิดตลาดเช้าวันนี้

          "ปรียนาถ สุนทรวาทะ" บิ๊ก BGRIM ยัน ADB ขายหุ้น 2.61% จากเดิมถือหุ้น 4.72% ไม่กระทบธุรกิจ เดินหน้าขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าตามแผน มีPPA 5,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 65 มั่นใจผลประกอบการปีนี้โต 10-15%

          ฝั่ง สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF)  มองว่าการขายหุ้นเป็นสิทธิของผู้ถือหุ้นในการกำหนดกลยุทธ์ด้านการลงทุน ไม่เกี่ยวกับพื้นฐานของกิจการแต่อย่างใด

          NDR เผยตลาดยางรถจักรยานยนต์ในครึ่งปีหลังพลิกฟื้นจากครึ่งปีแรก หวังผลักดันให้ผลประกอบการในปีนี้ยืนบวกได้ พร้อมระบุอยู่ระหว่างจัดทำงบผลประกอบการไตรมาส 1/2563 คาดนำส่งตลท.ภายในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ หลังบริษัทย่อยในมาเลเซียได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งต้องใช้มาตรการ RMO ตามคำสั่งรัฐบาล

          พ่อมดน้อย ค่ายโนมูระ พัฒนสิน  ประเมิน GUNKUL มีกำไรไตรมาส 2 ที่ 377 ลบ. (-14% y-y, -14% q-q) เนื่องจากเป็น low season ของโรงไฟฟ้าพลังงานลม แต่การขายไฟฟ้า และธุรกิจ EPC ไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID (ทางบริษัทยังมี backlog งาน EPC อีกกว่า 7,000 ลบ. ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ใน 2-3 ปี) แต่ประเมินกำไรจะโดดเด่นมากในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากเป็น high season ของลม และมี solar farm ที่มาเลเซียที่จะ COD และปีนี้มีลุ้นโครงการในเวียดนามที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 100 MW

          นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มขยายกำลังการผลิตในประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง ประเมินกำไรปีนี้ยังยืนในระดับสูงและมั่นคง แนะนำ ทยอยสะสม จากมูลค่าเหมาะสมปี 2020/21F ที่ 3.35 บาท (โดยราคายังไม่รวม upside ราว 0.10 - 0.20 บาท จากโครงการใหม่ในประเทศเวียดนามที่อยู่ระหว่างการพัฒนา)

                    ***การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน***