HotNews : กิตติ ธนากิจอำนวย ล้างครัว NOBLE 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ ( 11 ตุลาคม 2562)  นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) หรือ NOBLE เปิดเผยว่า “บริษัทฯ” ขอเรียนชี้แจงให้ทราบว่า บริษัทฯ ได่รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการทํารายการ Big Lot หลายรายการ ซึ่งเป็นการจำหน่ายโดย นายกิตติ ธนากิจอำนวย จำนวนทั้งสิ้น 80,593,610 หุ้น หรือคิดเป็น 17.66% ของสิทธิออกเสียง โดยเป็นการจำน่ายให้แก่

 

1. nCrowne Pte. Ltd. จำนวน 31,167,381 หุ้น หรือคิดเป็น 6.83%

2. นายธงชัย บุศราพันธ์ จำนวน 26,602,705 หุ้น คิดเป็น 5.82%

 

ทั้งนี้ การทํารายการดังกล่าวส่งผลให้โครงสร้างการถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ เปลี่ยนแปลงไปดังต่อไปนี้

 

 

กูรู ดีบีเอสวิคเคอร์ส ชี้เป้า NOBLE 32.94 บ.

 

บริษัท หลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ออกบทวิเคราะห์เปิดเผยว่า ผลดีจากการขายที่ดินเข้าบริษัทร่วมทุนกับฮ่องกงแลนด์ ทางบริษัทจะพัฒนาคอนโดซุปเปอร์ลักซัวรี่ บนถนนวิทยุ ติดกับสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต บนพื้นที่ดิน 3 ไร่ แบบ Free Hold มูลค่าโครงการมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายช่วงครึ่งหลังปี 63 ในนามบริษัทร่วมทุนกับฮ่องกงแลนด์ โดยบริษัทถือหุ้นราว 26% และฮ่องกงแลนด์ที่74% สิ่งที่ดีคือ บริษัทจะมีการขายที่ดินเปล่าเข้าสู่บริษัทร่วมทุนแห่งนี้ เราคาดว่าจะเกิดผลดีทั้งส่วนของรายได้ กำไรและกระแสเงินสด

 

คาดว่าการขายที่ดินครั้งนี้จะช่วยลดความกังวลเรื่องจ่ายปันผลสูงมาก เราคาดว่าราคาขายที่ดินจะอยู่ที่ราว 2-3 พันล้านบาท ขณะที่บริษัทมีต้นทุนตอนซื้อมาเพียง 2 ล้านบาทต่อตารางวา คาดว่ากำไรจะอยู่ที่ราว 300-450 ล้านบาท (ไม่นับส่วนที่ถือหุ้น 26%) ล่าสุดการที่บริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่สูงมากถึง 5.20 บาท ต่อหุ้น หรือคิดเป็นเงิน 2.4 พันล้านบาท ขณะที่ ณ 2Q62 บริษัทมีกำไรสะสมในงบเดี่ยวที่ 5.7 พันล้านบาท และมีเงินสดในมือรวมเงินลงทุนระยะสั้น 1.2 พันล้านบาท

 

 

 

 

จึงเกิดความกังวลหลายประการคือ ทริสจะปรับลดเครดิต อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนจะเกินกว่าข้อกำหนด (Debt Covenant) ที่ 2.5 เท่า หรือไม่ ดังนั้นเราจึงคาดว่าจากดีลการขายที่ดินข้างต้นจะช่วยคลี่คลายความกังวลได้ และบริษัทอาจจะไม่ต้องกู้เงินมาจ่ายเงินปันผลบางส่วน นอกจากนี้จะยังมีการขายสินทรัพย์อื่นๆ เข้ากอง RIETs ด้วย

 

อัตรากำไรขั้นต้นในช่วง 2H62 ดีกว่าคาด จากการที่งวด 2Q62 บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นเพียง 36% ต่างจาก1Q62 ที่สูงมากเป็นพิเศษคือ 53.0% ซึ่งมีกำไรจากการขายที่ดินเปล่าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง เราจึงมีสมมุติฐานว่ากำไรตลอดปี 62 จะเป็นเพียง 44% แต่บริษัทได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่าคอนโดที่จะโอนในงวด 4Q62 ได้ 2 โครงการคือ Noble Recole และ Noble BE 33 จะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่มากกว่า 40% แต่ที่ 2Q62 ต่ำเป็นเพราะมีการระบายสต็อคสินค้า เพื่อนำเงินสดมาใช้ เราจึงได้ปรับอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้สูงขึ้นเป็น 46.06% ยังผลให้คาดการณ์กำไรปีนี้ปรับเพิ่มขึ้นอีก 7%

 

 

 

ยอดขายต่างประเทศ 3Q62 กลับมาฟื้นตัวเป็น 3.5 พันล้านบาท หลังจากยอดขาย 2Q62 เป็นเพียง 0.5พันล้านบาท ลดลงเทียบกับ 1Q62 ที่ 1.7 พันล้านบาท สาเหตุที่ 2Q62 น้อยลง เนื่องจากบริษัทได้ถอดบางคอนโดที่ขายออกไปซึ่งไม่เหมาะสมในการขาย และเป็นฤดูกาลที่อ่อน แต่งวด 3Q62 มีการนำคอนโดใหม่ไปขายคือ Noble ศรีนครินทร์-ลาซาล ปรากฏว่าขายดีมาก ลูกค้าจองกว่า 300 หน่วย นอกจากนี้ในอนาคตจะมีการไปลงทุนยังอังกฤษและนำสินทรัพย์ไปขายที่จีน และฮ่องกง ขณะที่เงินบาทที่แข็งค่าจะทำให้มีต้นทุนต่ำลงมาก

 

แนวโน้ม 3Q62 อาจจะไม่ขาดทุน แม้ว่ายังไม่ถึงกำหนดโอน 2 คอนโดข้างต้นจนกว่าจะถึง 4Q62 แต่บริษัทยังมีการโอนคอนโดใน Backlog การขายสต็อค เช่น Noble เพลินจิตที่ยังมีอีก 200 ห้อง มูลค่า 3 พันล้านบาทที่ขายแล้วโอนได้เร็ว การขายที่ดินเข้า JV และสินทรัพย์อื่นๆ จึงมีโอกาสจะทำกำไรได้ อีกทั้งอาจเลื่อนการโอน 2 คอนโดบางส่วนข้ามไปยังปี 63 เพื่อช่วยให้กำไรปี 63 ยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง

 

 

 

ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น ซื้อ จากเดิม ถือ เพราะดีลการขายทิ่ดินเข้า JV และอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าคาด ช่วยลดความกังวลการจ่ายปันผลสูง คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่และเติบโตถึง 154% y-o-y ปรับราคาพื้นฐานใหม่ขึ้นเป็น 32.94 บาท ด้วย P/E ปี 62 ที่ 6.0 เท่า ราคาปิดมีส่วนเพิ่มอีก 18% และรับเงินปันผลที่สูง อัตราผลตอบแทนปันผลยังสูงถึง 18.6% ด้านการเข้ามาถือหุ้นของ BTS ที่ 9.9% คาดว่าในอนาคตจะมีข่าวดี เรื่องการร่วมทุนกับNOBLE พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ใกล้รถไฟฟ้า ขณะที่ BTS มีที่ดินติดแนวรถไฟฟ้าที่จะขยายตัวอย่างมากในอนาคต

 

 

NOBLE