วันที่ 16 สิงหาคม 2562 พบกับแม่มดน้อยได้ที่  www.hooninside.com (Line : @hooninside) รู้ลึกรู้จริงคลุกวงในหุ้นสไตล์กล้วยๆ

          โอมมะลึกกึ๊กกึ๋ยย์ มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์....... เพี้ยงแม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ   เห็นตลาดหุ้น มีสติอยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว หลังจากแตกตื่น เศรษฐกิจสหรัฐ มีสัญญาณถอดถอย(Recession) แบบว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นสูงกว่าพันธบัตรระยะยาวหรือเกิดภาวะ inverted yield curve แต่นั่นเกิดขึ้นวันเดียว  แท้จริงแล้ว มันต้องต่อเนื่องยาวนาน

          แต่อารมณ์นักลงทุนทั่วโลก ผวาไปหมด  เพราะ  ทรัมป์ ทวีตแต่ละเรื่อง ทั่วโลกสั้นสะเทือนไปหมด ล่าสุด มีข่าว ทรัมป์ จะต่อสายโทรศัพท์คุยกับ สี จิ้นผิง ผู้นำจีน เร็วๆนี้  ก็คงหารือการค้า คุยเรื่องฮ่องกงตลาดก็รอข่าว....นักลงทุนทั่วโลก พร้อมตื่นตกใจ ดีใจ.....วันนี้ ครม.ศก.นัดแรก ก็ประกาศตั้งเป้าดัน GDP ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 3% จากช่วง 2.7-3.2%, ปี 63 โต 3.5%

          วันนี้ วันศุกร์ แล้ว.... มีกำไร ก็เก็บเกี่ยวไว้  จำไว้ ขายหมู ก็ยังดีที่มีหมูให้ขาย....คร้า

          ปิดตลาดเช้า ดัชนีตลาดอยู่ที่ 1,615.33 จุด เพิ่มขึ้น 11.30 จุด  คิดเป็น 0.70%  มูลค่าการซื้อขาย 27,638.69 ล้านบาท

          อย่าไปตกอก ตกใจ ราคาหุ้น MORE พุ่ง 21.43% เพราะที่ผ่านมา ก็แห้งเหี่ยว ไหลลง ซึมลง มาอย่างต่อเนื่อง  ไตรมาส2ปีนี้ งบรวม กำไรลดเหลือ4.09ลบ. เทียบกับปีก่อน  กำไร 23.88 ลบ.  ส่วนครึ่งปีแรกปีนี้ พลิกเป็นขาดทุน 5.51 ลบ.เทียบกับปีก่อน กำไร51.46 ลบ. แม่มดน้อย ส่วนตัวก็มีความหวัง ลึกๆว่า  อมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ MORE คงได้โชว์ผลงานดีๆ ไม่ไตรมาส3ก็ไตรมาส4ปีนี้

          หุ้น MORE ประวัติเป็นอย่างใด ก็ทราบกันทั้งตลาด...การกลับตัว กลับใจ ของMORE ก็ต้องใช้เวลา...ต่อเนื่อง ยาวนาน มีเส้นทางทำมาหากิน กลางที่โล่ง  เพื่อให้ชาวหุ้นได้เห็นในเวลากลางวัน อิอิ

          DIMET วิ่งแรง 25% ชาวดอย เอฟซี คงรู้สึกแปลกใจ DIMET ใครกัน ใจกล้า ใจถึง  มาปลุกให้เกมหุ้นDIMET มีความคึกคัก...แม่มดน้อย เชื่อว่า ตลท.รู้ดีว่า คุณโม่งเป็นใคร เพราะทุกคำสั่งซื้อขาย ต้องผ่านหูผ่านตา อยู่ที่ว่าจะตัดท่อน้ำเลี้ยงหรือไม่ เท่านั้นเอง  เอาเถอะ ก็ปล่อยๆเขาเล่นไป  เพราะไม่นานมานี้  ทั่นปัญญา บุญญาภิวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) DIMET ก็เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ("ตลาดหลักทรัพย์ฯ") ได้สอบถามถึงพัฒนาการใดๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาหุ้นของบริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") เนื่องจากหุ้นของบริษัทฯที่ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ มีสภาพการซื้อขายเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วงที่ผ่านมานั้น   บริษัทฯ ขอชี้แจงว่าไม่มีพัฒนาการใดๆ ที่สำคัญ หรือมีสารเทศที่มีนัยสำคัญที่อยู่ระหว่างพิจารณาและอาจเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ในระยะอันใกล้โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินกิจการเป็นไปตามแผนการดำเนินงานปกติ

          แม่มดน้อย ยินดีกับ TEAMG ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการร่วมพัฒนาธุรกิจด้าน Smart Cities กับ Shenzhen Kingdom Engine International Technology Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม Shenzhen Kingdom Sci-Tech Company Limited ("Kingdom Group") ถือเป็นก้าวสําคัญในการต่อยอดธุรกิจของบริษัท ไปยังธุรกิจเกี่ยวเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศตามวิสัยทัศน์ของบริษัท

          Kingdom Group เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (Shanghai Stock Exchange) และเป็นผู้นําในการให้บริการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีฟินเทค (FinTech) มาตลอดระยะเวลา 20 ปี ที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีซอฟท์แวร์ในการ พัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart Cities) และ IT Operation ตลอดจนธุรกิจด้านอื่นๆ

          ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ  บริษัท จีเอชแอล ประเทศไทย เดินหน้าขยายบริการรับชำระเงินผ่านเครื่อง EDC  แบบ All-in-0ne ไปยังร้านค้าและร้านอาหารทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้รับชำระเงินได้หลายรูปแบบในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต รวมถึงในรูปแบบ QR และกระเป๋าเงิน e-Wallet ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกในการชำระเงินค่าสินค้าและบริการ ทั้งยังช่วยลดต้นทุนการรับบัตรเครดิตให้กับร้านค้าด้วย โดยนับถึงสิ้นเดือนมิ.ย. 2562 ได้ให้บริการเครือข่ายร้านค้าทั่วประเทศอยู่ทั้งสิ้นกว่า 59,000 จุด ซึ่งลูกค้าสามารถไปใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย เช่น ร้านอาหารนารา, ร้านขนมและเครื่องดื่มเยลลี่ ยัวส์,  ร้านสกินแคร์ All About You เป็นต้น

          แวะมาเรื่องราวของ ดร.ปอปลา ตอนนี้ดูเหมือน บทบาทในวงการตลาดหุ้นเบาบางลง แต่ดูเหมือน มีข่าวร่ำ ข่าวลือ..ก็ผุดเล็ก ผุดน้อย เกี่ยวกับเรื่องเงินๆทองๆ เรื่องเช็ค มีสปริง มีขดสปริง อยู่ในเช็ค...จนกองปราบ อัญเชิญ...แม่มดน้อย ว่า หากจริง คงต้องรีบไปเคลียร์กับคู่กรณี....เชื่อว่า ความอ่อน สยบความแข็ง........

          ต่อด้วย ความรู้กันบ้าง....กูรู บล.เอเซีย พลัส กล่าว  นักลงทุนคงสงสัย ทำไมประเด็นการเกิด Inverted Yield Curve ระหว่าง Bond Yield สหรัฐ 2 ปี กับ 10 ปี ถึงสร้างความผันผวนปั่นป่วนให้กลับตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงนี้ ?

          ฝ่ายวิจัย ASPS ทำการย้อนรอยการเกิด Inverted Yield Curve ระหว่าง Bond Yield สหรัฐ 2 ปี กับ 10 ปี ในอดีต พบว่า มีการเกิดขึ้น 4 ครั้งในรอบ 40 กว่าปีที่ผ่านมา และในแต่ละรอบจะทิ้งช่วงห่างกันประมาณ 10 ปี ที่สำคัญหลังเกิด Inverted Yield Curve มักจะมีวิกฤตทางการเงินตามมา
เปรียบเทียบผลตอบแทนรายปีของดัชนี MSCI World Index กับวิกฤติเศรษฐกิจและการเกิด Invert Yield Curve ระหว่าง Bond Yield สหรัฐ 2 ปี กับ 10 ปี

          อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ ณ ปัจจุบัน ยังไม่น่ากังวลมากนัก เนื่องจาก
          - ปัจจุบันการเกิด Inverted Yield Curve เป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆระหว่างวันเท่านั้น แต่ในอดีตจะต้องเกิดขึ้นกินระยะเวลานานพอสมควร (เกินกว่า 1 ปี) หลังจากนั้นเหตุการณ์วิกฤติทางการเงินจึงจะตามมา
          - วิกฤตเศรษฐกิจในอดีตเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เหมือนกันเลย และปัจจุบันยังไม่เห็นเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่การเข้าใกล้วิกฤตทางการเงิน นอกจากประเด็นสงครามทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ แต่หากการเจรจาระหว่างสหรัฐกับจีนดำเนินไปด้วยดี น่าจะช่วยให้ประเด็นดังกล่าวผ่อนคลายลง รวมถึงตัวเศรษฐกิจสำคัญๆของโลกยังคงแข็งแกร่ง ช่วยหนุนให้การเกิดวิกฤตยากขึ้น

          ในระยะสั้นความกังวลจากประเด็นดังกล่าวสร้างความผันผวนและกดดันตลาดหุ้นในช่วงนี้ สังเกตได้จาก Fund Flow ที่ไหลออกจากสินทรัพย์เสียง รวมถึงตลาดหุ้นทุกแห่งในภูมิภาค รวมถึงตลาดหุ้นไทย ที่ในเดือน ส.ค. 62 เป็นเดือนที่ถูกต่างชาติขายสุทธิสูงสุดถึง 3.5 หมื่นล้านบาท และถูกช็อตสุทธิสัญญา SET50 Futures สูงสุดเช่นเดียวกันกว่า 8.27 หมื่นสัญญา

          อย่างไรก็ตามยามที่เกิดวิกฤตย่อมมีโอกาสเกิดขึ้นเสมอ หากประเด็นกดดันต่างๆผ่อนคลายลง อาจเป็นโอกาสในการเข้าไปสะสมหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งที่มูลค่า Under value จากความเป็นจริงได้

                    ***การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน***