Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : "อมฤทธิ์" กับปฏิบัติการฟื้น MORE

6,911

HotNews : "อมฤทธิ์" กับปฏิบัติการฟื้น MORE 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (1 สิงหาคม  2562) "อมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ"  หรือ“เฮียม๊อ”  ก้าวเข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  ของบริษัท มอร์ รีเทิร์น จํากัด (มหาชน) หรือ MORE   (ชื่อเดิม คือ บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จํากัด (มหาชน) หรือ  DNA)  เมื่อวันที่  12 มิถุนายน 2561  ภายในระยะเวลาปีเศษๆ   ที่ “เฮียม๊อ” เข้ามาบริหาร MORE   อย่างเต็มตัว ได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจหลายด้าน  โดยในปี 2561 ถือเป็นอีกหนึ่งปีสําคัญที่บริษัทฯ ได้มีการปรับเปลี่ยนองค์กรในหลายด้าน ทั้งการจัดโครงสร้าง ธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ทํางานได้อย่างเต็มความสามารถ นอกจากนี้ ยังมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างบริหาร จัดการภายในองค์กร พร้อมปรับกลยุทธ์การบริหารธุรกิจใหม่ให้สอดรับกับสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่เป็นตัวกระตุ้นให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

 

 

“เฮียม๊อ” เล่าให้ทีมข่าวหุ้นอินไซด์ฟังว่าในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้จําหน่ายเงินลงทุนซึ่งเป็นหุ้นสามัญ ดังนี้

 

1. จําหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดในหุ้นสามัญของบริษัท ฮอลลีวู้ด (ประเทศไทย) จํากัด (“HLW) (เดิมชื่อ “บริษัทฮอลรีวูด รีพอร์ทเตอร์ (ประเทศไทย) จํากัด”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท ดีเอ็นเอ เรฟโวลูชั่น จํากัด(“DRV”) ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 83.34 ของทุนจดทะเบียน


2. จําหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดในหุ้นสามัญของบริษัท สมอลล์รูม จํากัด (“SMR”) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมที่บริษัทดี เอ็นเอ เรฟ โวลูชั่น จํากัด (“DRV”) ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 25.00 ของทุนจดทะเบียน โดยที่ DRV เป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นใน สัดส่วนร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียน


3. จําหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดในหุ้นสามัญของบริษัท มายเน็ตเวิร์ค แอนด์ โซลูชั่น จํากัด (“MyrNet”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50.99 ของทุนจดทะเบียน


4. จําหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดในหุ้นสามัญของของบริษัท ดิจิตอล ซินเนอร์จี จํากัด (“DGT”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท ดีเอ็น เอ เรฟโวลูชั่น จํากัด (“DRV”) ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 49.00 ของทุนจดทะเบียน โดยที่DRV เป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้น ในสัดส่วน ร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียน

 

5. จําหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดในหุ้นสามัญของบริษัท บัน จํากัด (“Bun”) จํานวน 4,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 50.00 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด


6. จําหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดในหุ้นสามัญของบริษัท ไวเทค อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (ไวเทค) ที่บริษัทถืออยู่ทั้งหมดจํานวน 29,997 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด


7. จําหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดในหุ้นสามัญของบริษัท ดีเอ็นเอ รีเทล ลิ้งค์ จํากัด (“DRL”) ให้แก่บริษัท บานาน่ากรุ๊ป จํากัด จํานวน 1,199,999 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 79.99 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมดของ DRL

 

 


ทั้งนี้ ภายหลังการจำหน่ายหุ้นบริษัทย่อยที่เข้าไปลงทุนแล้วไม่ได้สร้างผลตอบแทนกลับมาตามที่คาดหวัง บริษัทฯ ได้หันเห มาสู่ธุรกิจจําหน่ายระบบและอุปกรณ์ในการประหยัดพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นขุมกำลังใหม่ให้ MORE และบริษัท มีแผนการดําเนินธุรกิจโดยยังมุ่งมั่นจะแสวงหาธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างรายได้ให้มั่นคง

 

 

สำหรับในปี 62 บริษัทฯมั่นใจรายได้จะเติบโตกว่าปีก่อนที่ทำได้ 235.06 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัทฯได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจโดยจำหน่ายหุ้นทั้งหมดในบริษัท ดีเอ็นเอ รีเทล ลิ้งค์ จำกัด (DRL) ซึ่งประกอบธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสาร ภายใต้ชื่อ KingKong Phone ให้บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ไปเรียบร้อยแล้ว และหันมาเริ่มรุกธุรกิจประหยัดพลังงาน , ธุรกิจฟื้นฟูแบตเตอรี่ที่ดำเนินการภายใต้ บริษัท อี เอส พี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ด้วยการนำแบตเตอรี่เก่าที่เสื่อมสภาพกลับมาฟื้นฟูและสามารถกลับมาใช้งานได้เช่นเดิม โดยปัจจุุบันอุตสาหกรรมแบตเตอรี่มีมากมายไม่ว่าจะเป็นเสาส่ง , รถยก (Forklift) , รถกอล์ฟ,รวมถึงรถยนต์อีกจำนวนหลายล้านคันบนท้องถนน

 

 

ขณะที่ บริษัทได้เริ่มมีการขยายกิจการในธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มดําเนินการโครงการวาง ระบบประปา เพื่อบริหารจัดการน้ำบนพื้นที่เกาะเสม็ด ซึ่งบริหารจัดการโดย บริษัท เสม็ดยูทิลิตี้ส์ จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ในเครือของบริษัท เป็นระยะเวลา 25 ปี ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อบริษัทฯ เนื่องจากโครงการดังกล่าวถือว่ามีศักยภาพสูงใน การสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องให้กับบริษัทต่อไปในอนาคต

 


"ธุรกิจน้ำปะปาที่บริษัทฯได้ผลิตและจำหน่ายบนเกาะเสม็ด คาดว่าสามารถเปิดดำเนินการได้ภายในปีนี้" นายอมฤทธิ์ กล่าว

 

 


พร้อมกันนี้ คาดว่าภาพรวมผลประกอบการของบริษัทฯในครึ่งปีแรกของปี2562 จะเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปีที่ผ่านมาธุรกิจค้าปลีกค่อนข้างที่จะซบเซา รวมถึงปีนี้บริษัทฯได้ขายธุรกิจที่ไม่ก่อให้เกิดกำไรไปแล้ว เหลือแต่ธุรกิจที่ก่อให้เกิดรายได้โดยจะเห็นการเริ่มต้นตั้งแต่ไตรมาส 1/2562-ไตรมาส2/2562 และจะเห็นการเติบโตได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส3/2562 เป็นต้นไป หลังจากมีรัฐบาลใหม่เข้ามา ทำให้ทุกอย่างมีความชัดเจนซึ่งบริษัทฯมองถึงนโยบายของรัฐบาลเป็นส่วนสำคัญในการผลักดัน หากสิ่งใดที่สอดคล้องต่อนโยบายของรัฐบาลบริษัทฯก็พร้อมที่จะเดินหน้าอย่างเต็มที่

 

 

"ปีที่ผ่านมาเราได้มีการปรับตัวจากเดิมที่ทำธุรกิจรีเทลของ KingKong Phone ซึ่งเราก็ได้จำหน่ายออกไปให้แก่ COM7 ส่วนปีนี้เราก็มาจับธุรกิจที่แฝงตัวอยู่ในบริษัทฯอยู่แล้วเพียงแต่มันค่อยๆเติบโตขึ้นมาอย่างเช่นธุรกิจประหยัดพลังงาน เราก็มีการติดตั้งอุปกรณ์ในการช่วยพลังงาน ให้กับอุตสาหกรรมใหญ่ๆ เช่นโรงสีข้าว โรงพยาบาลขนาดใหญ่ โดยหลังจากที่ติดตั้งไปแล้วสามารถลดค่าไฟได้ถึง20% รวมถึงยังมีอุตสาหกรรมขนาดเล็ก ปีนี้เราพึ่งเอาตัวอุตสาหกรรมขนาดเล็กเข้ามาที่เป็นไฟฟ้าแรงต่ำ อย่างเช่นไปติดที่ 7-11 , แฟมมิลี่มาร์ท หรือร้านอาหารทั่วไปเป็นต้น ซึ่งร้านเหล่านี้ใช้ค่าไฟตั้งแต่ 50,000-80,000 บาทขึ้นไป และการใช้ค่าไฟตรงนี้ต่อเดือนค่อนข้างเสถียร และเรามองว่าเศรษฐกิจในปัจจุบันเป็นช่วงที่หลายคนต้องการรัดเข็มขัดและกิจการที่บริษัทฯดำเนินอยู่ก็สามารถเข้าไปช่วยเสริมกับสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ " นายอมฤทธิ์ กล่าว

 

 

ขณะที่ค่าเงินบาทที่แข็งค่า บริษัทฯ คาดว่าได้รับอานิงสงค์จากกรณีดังกล่าวเนื่องจากบริษัทฯมีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ทำให้ต้นทุนลดลง

 

 

เฮียม๊อ ยังฝากข้อความทิ้งท้าย ส่งสารถึงนักลงทุนว่า "ขอบคุณนักลงทุนที่ติดตามบริษัทฯ ที่ผ่านมานักลงทุนอาจจะงงว่าบริษัทฯ ทำอะไรกันแน่ โดยที่เราไม่ได้มีภาพพีอาร์ออกมา ซึ่งตั้งแต่ผมเข้ามาบริหารก็พยามจะมองเรื่องการประชาสัมพันธ์กิจการที่เราทำอยู่ ครึ่งปีหลังคงจะเริ่มเห็นเรามากขึ้นเพราะกิจการที่เราได้เริ่มทำมาแล้ว ผมมองว่ามันจับต้องได้จริง เราถึงกล้าที่จะพีอาร์บอกไป"

 

 

 MORE 



 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้