HotNews : PDG ยิ้ม ต้นทุนเม็ดพลาสติกลด หนุนมาร์จิ้นปีนี้โตแจ่ม
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (18 กรกฎาคม 2562) PDG คาดยอดขาย H1/62 โตราว 10% - อัตรากำไรสุทธิพุ่งแตะ 30% รับอานิสงส์ต้นทุนวัตถุดิบลดลง วางเป้ายอดขายปี 62 โต 10% พร้อมวางงบลงทุน 60 ลบ. สร้างโรงงานแห่งใหม่ขยายกำลังการผลิตขวดผลิตภัณฑ์น้ำดื่ม - น้ำผลไม้ คาด เริ่มเดินเครื่องผลิตราวต้นปีหน้า
นายธงชัย ตันสุทัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอดดิจิ จำกัด (มหาชน) PDG เปิดเผยกับสำนักข่าวหุ้นอินไซด์ว่า ประเมินยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกจะเติบโตประมาณ 10% ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 30% เนื่องจากบริษัทฯ ได้อานิงสงค์จากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง โดยต้นทุนวัตถุดิบหลักคือเม็ด Polyethylene Terephthalate หรือ PET ที่ราคาในปีนี้ต่ำกว่าปีที่แล้วทำให้ต้นทุนของบริษัทฯ ลดลง ประกอบกับในปีนี้อากาศในหน้าร้อนค่อนข้างร้อนทำให้ยอดขายใน Segment ของตลาดน้ำดื่มปรับตัวเพิ่มขึ้น
"ครึ่งปีแรกยอดขายเราโตขึ้นมาประมาณ10% และมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาประมาณ 30% เนื่องจากเราได้อานิงสงค์จากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง โดยต้นทุนวัตถุดิบหลักของเราของเม็ด PET ราคาในปีนี้ต่ำกว่าปีที่แล้วทำให้ต้นทุนเราลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิและอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับในปีนี้อากาศในหน้าร้อนค่อนข้างร้อนด้วยทำให้ยอดขายใน Segment ของตลาดน้ำดื่มเราเพิ่มขึ้น " นายธงชัย กล่าว
สำหรับเป้าหมายยอดขายทั้งปี 2562 บริษัทฯ ยังคงเป้าเติบโตประมาณ 10% จากปีก่อน โดยในส่วนของกำลังการผลิตบรรจภุณัฑ์ขวด PET สำหรับน้ำผลไม้บรรจุขวด ,น้ำดิ่ม, น้ำมันพืช,เครื่องปรุงรส มีการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 70-80% แต่ว่าในส่วน Preform ใช้ไปประมาณ 30-40% เพราะบริษัทฯ เพิ่งรันโปรดักส์ชั่น แต่คาดว่าในอนาคตจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น
ขณะที่ปีนี้ บริษัทฯ วางงบลงทุนประมาณ 60 ล้านบาทเพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตในส่วนของผลิตภัณฑ์น้ำดื่ม น้ำผลไม้ที่ต่างจังหวัด ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสร้างโรงงาน คาดว่าจะรัน โปรดักชั่นส์ได้ประมาณต้นปีหน้า
"ปีนี้บริษัทฯ จะไปขยายกำลังการผลิตในส่วนของผลิตภัณฑ์น้ำดื่ม น้ำผลไม้ที่ต่างจังหวัด ตอนนี้อยู่ระหว่างการสร้างโรงงาน คาดว่าจะรันโปรดักชั่นส์ได้ประมาณต้นปีหน้า คาดว่าเริ่มผลิตไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ใช้เงินลงทุนประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งโรงงานแห่งนี้จะตั้งอยู่ใกล้กับลูกค้ามากขึ้น ทำให้ลูกค้าได้ benefit เรื่องค่าข่นส่ง" นายธงชัย กล่าว
ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในระยะนี้ ส่งผลดีต่อบริษัทฯ เนื่องจากบริษัทฯ สามารถซื้อวัตถุดิบได้ต่ำลง เพราะราคาเม็ดพลาสติกอิงตามราคาตลาดโลก พอคอนเวิร์สเป็นเงินบาทก็ทำให้ต้นทุนลดลง
"ส่วนใหญ่ลูกค้าเราจะเป็นลูกค้าในประเทศ โดยค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ มากกว่า เพราะว่าวัตถุดิบของเราถึงแม้จะซื้อในประเทศก็ตาม แต่เม็ดพลาสติกอิงตามราคาตลาดโลก พอคอนเวิร์สเป็นเงินบาทก็ทำให้ต้นทุนลดลง" นายธงชัย กล่าว
นายธงชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมพลาสติกเจอปัญหาเรื่องต้นทุนเม็ดพลาสติกที่สูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบประกอบกับการบริโภคในประเทศที่ตลาดค่อนข้างซบเซา แต่ตอนนี้วงจรกลับขาแล้ว จึงอยากฝากให้นักลงทุนติดตามบริษัทฯ
PDG