Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : เจาะโค้งแรก BEM กำไรโตทั้ง YoY และ QoQ ลุ้นโกยรายได้ 4 พันลบ.

2,524

HotNews : เจาะโค้งแรก BEM กำไรโตทั้ง YoY และ QoQ ลุ้นโกยรายได้ 4 พันลบ.

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (26  เมษายน  2562) 2 เทพหุ้น เจาะผลงานโค้งแรก BEM  กำไรโตทั้ง YoY และ QoQ  ลุ้นโกยรายได้ 4 พันลบ.   งานนี้ดีบีเอสวิคเคอร์ส แนะซื้อ ราคาพื้นฐาน ที่ 11.80 บ.  -ทรีนีตี้ โบกธง "ซื้อ" เคาะเป้า 11.40 บาท/หุ้น  ด้านผู้บริหาร  BEM คาดปริมาณผู้โดยสารเดือน ก.ย.นี้ จะแตะ 4-5 แสนราย/วัน จากเดิมกว่า 3 แสนราย/วัน หลังเปิดให้บริการสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง - หลักสอง , คาดปี 62รายได้จากธุรกิจทางพิเศษ โต 1-2% ตามปริมาณการใช้รถนอกเมือง

 

บริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอสวิคเคอร์ส ออกบทวิเคราะห์ แนะนำซื้้อ BEM ราคาพื้นฐาน 11.80 บาท คาดกำไร 1Q62F แข็งแกร่ง คาดการณ์กำไรปกติไว้ที่ 795 ล้านบาท (+13%YoY, +35%QoQ) โดยการเพิ่ม QoQเป็นเพราะปัจจัยฤดูกาล ; คาดรายได้โต 3%YoY จากปริมาณโดยสารรถไฟฟ้า 1Q62F โต 3.3%YoY เป็น 3.23 แสนเที่ยวต่อวัน ปริมาณการใช้ทางด่วนเพิ่ม 1.1%YoY เป็น 1.26 ล้านเที่ยว/วัน และดอกเบี้ยจ่ายลดลง 112 ล้านบาทจากการรีไฟแนนซ์หนี้



คาดรถไฟเชื่อม 3 สนามบินจะเซ็นสัญญาในเดือน พ.ค.นี้ ซึ่ง BEM อยู่ในกลุ่มร่วมประมูลโดยถือหุ้น 10% เงินลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดและการกู้ยืม บริษัทคาดว่าการลงทุนนี้จะเปิดโอกาสให้ได้รับงานบริหารการเดินรถไฟด้านสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายเป็นไปตามแผน BEM จะทดสอบระบบเดือนก.ค.นี้ และเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ส่วนแรก (หัวลำโพง-หลักสอง 11 สถานี) เดือนก.ย.62 และให้บริการเต็มรูปแบบ มี.ค.63

 

 

แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 11.80 บาท (SOP) โดยปรับลดคาดการณ์กำไรปี 62 ลง 8% เพราะการต่อสัญญาสัมปทานล่าช้ากว่าคาด โดยประมาณการใหม่ให้ได้ต่อสัมปทานอย่างเป็นทางการสิ้น 2Q62 และเริ่มได้ประโยชน์จากมูลค่าตัดจำหน่ายสัมปทานที่ลดลงเพราะอายุสัมปทานยาวขึ้นตั้งแต่ 3Q62 เป็นต้นไป ซึ่งช้ากว่าประมาณการเดิม 1 ไตรมาส

 

 

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ แนะนำ "ซื้อ" BEM ประเมินราคาเป้าหมาย 11.40 บาท/หุ้น โดยคาดว่า BEM จะรายงานรายได้ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาเติบโต 3.2% YoY และ 0.7% QoQ เป็น 4,011 ล้านบาท จากจำนวนผู้ใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 1.1% YoY และ 3.4% YoY ตามลำดับ กอปรกับมีการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์ ภายหลังการเปิดให้บริการ Metro Mall สาขาใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

 

 

ทั้งนี้เราคาดว่าค่าใช้จ่ายทางการเงินจะลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการรีไฟแนนส์เงินกู้ ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 792 ล้านบาท (+7.6% YoY, +63.9% QoQ) โดยเป็นการเติบโตได้ดีหากเทียบกับไตรมาสก่อนเนื่องจากช่วง 4Q18 บริษัทมีการตั้งสำรองสิทธิประโยชน์ของพนักงานตาม พรบ.คุ้มครองแรงงานฉบับใหม่ มูลค่าราว 132 ล้านบาท

 

BEM คาดว่าการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-บางแค (หลักสอง) 11 สถานี ยังคงเป็นไปตามแผนการเดิม โดยจะเริ่มทดสอบระบบช่วง เม.ย.-พ.ค.นี้ จากนั้นปลายเดือน มิ.ย.จะทดสอบเสมือนจริง และเปิดทดลองให้ประชาชนมาใช้บริการฟรีเดือน ก.ค.-ส.ค. และเริ่มเก็บค่าโดยสารปลายเดือน ส.ค. เป็นต้นไป ที่ราคา 16-42 บาท เท่ากับค่าโดยสารสายสีน้ำเงินปัจจุบัน เบื้องต้น ทางรฟม. คาดผู้โดยสารสายสีน้ำเงินจะเพิ่มขึ้นราว 200,000 คนต่อวัน

 

 

 

 

แต่เรามีมุมมองเชิงอนุรักษนิยมโดยประเมินจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ราว 100,000-150,000 คน ต่อวัน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเราจะประมาณการจำนวนผู้โดยสารที่น้อยกว่าทาง รฟม. แต่เรายังเชื่อว่าการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โดยสารอย่างก้าวกระโดดจากการเปิดให้บริการส่วนต่อขยายในครั้งนี้ จะทำให้ BEM ได้รับอานิสงส์ทั้งด้านการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างชัดเจน

 

 

ด้วยปัจจัยการเติบโตในอนาคตของ BEM ที่ชัดเจน ทั้งในด้านธุรกิจทางด่วน และธุรกิจรถไฟฟ้า ทำให้เราเชื่อว่าบริษัทจะมีแนวโน้มที่สดใสอย่างตลอดทั้งปี เราจึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมายเดิม 11.40 ด้วยวิธี SOTP และยก BEM ให้เป็น TOPPICK ของกลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ เนื่องจากราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside สูงที่สุดในกลุ่ม และมี Catalyst สำคัญอย่างการเปิดรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายในปีนี้อีกด้วย

 

 

อย่างไรก็ตามความเสี่ยง ปริมาณผู้ใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้าต่ำกว่าคาด และโครงการรถไฟฟ้าและทางด่วนสายใหม่มีความล่าช้า หรือ BEM ไม่ชนะประมูลโครงการใหม่

 

 

 

 

ขณะที่ นางพเยาว์ มริตตนะพร กรรมการผู้จัดการและกรรมการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือ BEM เปิดเผยในงานประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 ว่า บริษัทฯคาดว่าแนวโน้มรายได้ปี 2562 จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปี 2561 ที่บริษัทฯมีรายได้อยู่ที่ 19,520.12 ล้านบาท ตามปริมาณการใช้ของผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นในเดือนกันยายนนี้ หลังจากที่บริษัทฯเตรียมเปิดให้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน(ส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-หลักสอง) โดยบริษัทฯคาดว่าหลังจากที่เปิดให้บริการแล้วจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น ประมาณ 4-5 แสนราย/วัน จากเดิมอยู่ที่ 3 แสนกว่ารายต่อวัน

 

ขณะเดียวกัน ในปี 2563 บริษัทฯเปิดให้บริการ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน(ส่วนต่อขยายช่วงเตาปูน-ท่าพระ)ในช่วงเดือนมีนาคม ซึ่งจะทำให้บริษัทฯสามารถให้บริการผู้โดยสารเพิ่มได้อีกราว 1 แสนราย/วัน

 

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาส1/2562 บริษัทฯมีรายได้จากธุรกิจระบบรางเติบโตราว 3.45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

ส่วนธุรกิจทางด่วนพิเศษ บริษัทฯคาดว่าปีนี้รายได้จะเติบโต 1-2% (Organic Growth) จากปีก่อนที่เติบโต 1.3% ซึ่งเป็นไปตามปริมาณของการใช้รถจากนอกเมือง ตามเมืองขยายต่างๆ ส่วนปริมาณการใช้รถในตัวเมืองบริษัทฯมองว่ายังคงเติบโตได้ยากเนื่องจากมีการใช้รถไฟฟ้ากันเป็นส่วนใหญ่

 

 


ด้านธุรกิจเชิงพาณิชย์ปีนี้บริษัทฯมองว่าเติบโตได้ดีกว่าปีก่อนเนื่องจาก บริษัทฯไม่ได้มีมีการปิดซ่อมบำรุงเมโทรมอล พื้นที่ 2,000 ตารางเมตร ที่สถานีจตุจักรเหมือนปีที่ผ่านมา โดยการปิดปรับปรุงดังกล่าวเสร็จเป็นที่เรียบร้อย และได้เปิดให้บริการช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา

 


สำหรับแผนการนำ "แบงก์คอกเมโทร เน็ตเวิร์ค" เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น ขณะนี้บริษัทฯยังคงต้องรอการเปิดใช้บริการรถไฟฟ้าให้ครบทุกสายก่อน ถึงจะเข้าสู่ขั้นตอนการจัดทำข้อมูลและเอกสารซึ่งขณะนี้ยังไม่สามรถระบุได้ว่าจะเป็นช่วงไหน

 

BEM

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ไม่แตกต่าง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ หุ้นไทย เช้านี้ แกว่งตัว บ่ายวันนี้ ก็เช่นกัน แม้GDP ไตรมาส 1/67 ของไทยที่ออกมาวันนี้ 1.5% ...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้