สัมภาษณ์พิเศษ : เปิด MISSION "ปริทัศน์ เพชรอำไพ" เลือดใหม่ MTC

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 22 มกราคม 2562 )----------สัมภาษณ์พิเศษหุ้นอินไซด์ครั้งนี้ ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ "ปริทัศน์ เพชรอำไพ" รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) MTC นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ ไฟแรง ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน และทายาทผู้สืบทอดอาณาจักร MTC ของเจ้าสัว ชูชาติ เพ็ชรอำไพ ที่มาพร้อมกับ MISSION ในปีหมูทองของ MTC ยังทอแสง ผ่องอำไพ ด้วยเป้าหมายธุรกิจปี 2562 รายได้และกำไรเติบโต 35% ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ปูพรมเปิดสาขาเพิ่มอีก 600 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ คุม NPL อยู่หมัดไม่เกิน 2.0% ท่ามกลางความกังวลเรื่องการเปลี่ยนวิธีการจัดชั้น NPL ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจใน-นอกที่ส่อเค้าชะลอตัว MTC จะฝ่าปัจจัยลบเหล่านี้ไปได้อย่างไร ขอเชิญคุณผู้อ่านติดตามบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้เลยค่ะ..............

Q : แผนงานและเป้าหมาย MTCในปีนี้
A : เป้าหมายของเราในปีนี้ก็คือการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อของเรานะครับ โดยเน้นวงเงินที่ประมาณ 20,000 ต่อ 1 สัญญา ซึ่งปัจจุบันเรามีทั้งหมด ประมาณ 2 ล้านสัญญา เราต้องการเติบโตในตัวสัญญา และก็ตัววงเงินในการปล่อยกู้ เบื้องต้น เป้าหมายปีนี้ คือการเพิ่มฐานวงเงินในการปล่อยกู้ หรือ นิวโลน (เงินปล่อยกู้ใหม่) อยากเพิ่มซัก 35% และเป้าหมายปีถัดไปอีก 30% ซึ่ง เป็นเป้าหมาย 3 ปีของเรา โดยปีที่แล้วคร่าวๆ 9 เดือน เราทำได้ 40% งั้นแผน 3 ปี ก็คือ 40% , 35% และ 30%

Q: แผนการเปิดสาขาปีนี้
A:ในปี 2562 ว่า บริษัทฯเตรียมเปิดสาขาใหม่อีก 600 สาขา ส่งผลให้สิ้นปีนี้บริษัทฯ จะมีสาขากว่า 3,900 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมครับ

Q : การจัดชั้นNPLแบบใหม่ของแบงก์ชาติ ส่งผลกระทบต่อMTC หรือไม่
A : กรณีมีธนาคารพาณิชย์ 1 เจ้า มาบอกว่ามีการปรับโครงสร้างในการรอบกฎเกณฑ์ใหม่ของตัว NPL ให้ตรงไปตามในเกณฑ์ของแบงก์ชาติ ส่งความกังวลมาที่ตัว Non - Bank ซึ่งจริงๆแล้วตามหลักการแล้ว MTC เนื่องจากว่า เราเองก็เน้นความเป็นผู้นำอันดับ 1 ตัวสินเชื่อในตัว Micro Financh (ไมโครไฟแนนซ์) อยู่แล้ว ของเราเองก็ได้มีการจัดการ ใช้แผนรองรับแบบนี้มา ตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเราก็ทำมาโดยตลอด

Q: NPL ปี62 จะอยู่ในระดับกี่%
A: บริษัทฯวางเป้าคุม NPL ไว้ที่ระดับไม่เกิน 2.0% ครับ

Q : แผนโรดโชว์ในต่างประเทศปีนี้
A : สำหรับแผนโรดโชว์ในปีนี้ ต้องยอมรับว่าองค์กรของเราก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง ใน 4 ปี ที่ผ่านมา ปีนี้เองก็มีนักลงทุนต่างชาติมีความสนใจเยอะขึ้นในทุกๆปี ปีนี้เองเราก็คิดที่จะไปฮ่องกง ประมาณ 2-3 ครั้ง สิงคโปร์ 2-3 ครั้ง นะครับ แล้วก็ ยุโรป 1 ครั้ง แล้วก็อเมริกา 1 ครั้ง อันนี้ก็คือขั้นต่ำของเรานะครับ ที่เหลือก็ต้องรอดูผลตอบรับอีกทีว่า จะมีนักลงทุนต่างชาติต้องการให้เดินทางไปที่ไหนอีก อาจจะมีตลาดใหม่ เช่น ไต้หวัน หรือ มาเลเซีย เดี๋ยวอันนี้ก็ต้องรอติดตามดูอีกทีครับ

Q : สุดท้ายนี้อยากให้ฝากถึงนักลงทุนและผู้ถือหุ้นMTC หน่อยค่ะ
A : อยากให้นักลงทุนลองดูตัวแทรคเรคคอร์ดขององค์กรเรา เราเข้าตลาดมาเมื่อ 4 ปี ที่แล้วนะครับ โดยตัวธุรกิจเราจะดูพอร์ตสินเชื่อเป็นหลัก ตอนนั้นเองเรามี 500 สาขา พอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 7 พันล้านบาท ขณะนี้สิ้นสุดปีที่แล้วเรามี 3,300 สาขา ส่วนพอร์ตสินเชื่อประมาณ 48,000 ล้านบาท ซึ่งมันก็เติบโตหลายเท่าตัวจาก 7 พันล้านบาท ปีนี้เราก็คิดว่าเราสามารถเติบโตได้อีก นับวันเรามองว่าการเติบโตของเราเป็นสิ่งที่ง่ายนะครับ เพราะว่าเราเริ่มเป็นเจ้าใหญ่แล้ว มันได้สเกลในการเติบโตค่อนข้างง่ายขึ้น ง่ายขึ้น แล้วก็ง่ายขึ้น ดังนั้นเองดูแทรคเรคคอร์ด นักลงทุนจะเห็นว่าเวลาเราทำอะไรจะตั้งวิสัยทัศน์ไว้ในระยะยาวนะครับ ดังนั้นเองผมเชื่อว่า ปีนี้ทุกอย่างจะนิวไฮหมด ตัวเลขอะไรทุกอย่างก็น่าจะนิวไฮ ซึ่งน่าจะเป็นที่น่าพอใจของนักลงทุน และอยากให้ถือยาวๆนะครับ และดูต่อไปว่าอุตสาหกรรมนี้ทาง MTC จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้เพิ่มขึ้นขนาดไหนในปีนี้และก็ปีหน้า

--------จบ----------

By:ปทุมพร ม่วงเอก/สุกัญญา ศิริรวง