แมกกาซีนหุ้นอินไซด์  ( 20 กุมภาพันธ์ 2561 ) ------- สัมภาษณ์พิเศษวันนี้ทีมข่าวหุ้นอินไซด์ขอนำเสนอ เปิดวิสัยทัศน์  "สิทธิเดช มัยลาภ" CEO บมจ.สกาย ไอซีที (SKY) ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงกับภารกิจที่ท้าทาย นำพา SKY ให้โตวันโตคืน ด้วยเป้าหมายปี 2561 วาดแผนโตก้าวกระโดดทั้งกำไร - รายได้ ..... พร้อมเข้าสู่ยุค Sunrise business ทีมข่าวหุ้นอินไซด์ ขอนำบทสัมภาษณ์ ซึ่งมีเนื้อหาน่าสนใจดังนี้

"ปี 2561 เราวางเเผนว่าต้องโตเเบบก้าวกระโดด ต้องรอดูว่าเป็นอย่างไรทั้งรายได้ทั้งกำไร เเต่เราก็มีในส่วนของรายได้ มี backlog อยู่เเล้ว 700 กว่าล้านบาท ซึ่ง Backlog ก็ถือว่าโตกว่าปี 2560 เเล้ว"นายสิทธิเดช กล่าว

Q : ความเป็นมาของการเข้ามาบริหารงานที่ SKY ?
โดยส่วนตัวเเล้วมาสายวิศวกรเเต่มีความสนใจด้านเทคโนโลยี การสื่อสารเเละได้มีโอกาสในทำในฝั่งสื่อสารด้วย เเล้วสุดท้ายไปทำงานที่มีเดียเป็นเวลานาน ซึ่งก็ได้สะสมประสบการณ์ในหลายรูปแบบ ทั้ง ก่อสร้าง ทั้งงานด้านมีเดีย ออกวิทยุ ทีวี เป็นวิทยากรบ้าง ทำเรื่องคมนาคมด้วย ก็เอาประสบการณ์หลายๆอย่างมาผสมรวมกันเเล้วก็เริ่มมาทำด้าน ไอทีอย่างเต็มตัว ด้วยความสนใจในเทคโนโลยี ที่มีการก้าวไปข้างหน้าทุกวัน หากเราไม่ปรับตัวเองให้โตตามเทคโนโลยีให้ทัน เราก็จะล้าสมัย

Q : ใครเป็นคนเเนะนำให้สนใจในด้านเทคโนโลยี ?
จริงๆตั้งเเต่เด็ก มีความชอบทางด้านเทคโนโลยี เริ่มตั้งเเต่โทรศัพท์การสื่อสารก็เริ่มใกล้ตัวเรามากขึ้น ก็เริ่มศึกษาหาความรู้รอบตัวประกอบกับช่วงหลังโอกาสของสตาร์ทอัพมีเยอะเพราะว่าพอเทคโนโลยีเข้ามาจะมีคนที่มีความรู้มาทำธุรกิจเอง เเละเด็กยุคดิจิตอลก็มีความสนใจในด้านนี้เขาก็สร้างให้เป็นธุรกิจได้ เราก็เริ่มสนใจ เเละศึกษาเลยรู้สึกสนุกไปกับมันก็เลยลองดู ประกอบกับมีโอกาสเข้ามาก็เลยลองธุรกิจ ไอที

Q : ตัดสินใจนานไหมกว่าจะเข้ามาบริหารงาน SKY เเละเป็น CEO ด้วย?
ตัดสินใจนานเหมือนกัน เพราะความเชี่ยวชาญของเราจริงๆก็มาสายก่อสร้าง สายมีเดีย ไม่ตรงสายไอที 100% เเต่เราก็ยังเชื่อมั่นในประสบการณ์ที่เราสั่งสมมา 15-16 ปี ก็น่าจะมาช่วยให้เราดำเนินธุรกิจนี้ได้บวกกับความชอบส่วนตัวด้วย ก็ทำให้เราน่าจะไปได้เร็ว พอได้มาเริ่มงานที่นี้ก็โชคดีที่ได้เพื่อนร่วมงานที่มีศักยภาพเเละประสบการณ์สูงมาก ก็เลยทำให้เราง่ายกับการดูในเเง่ Management สร้างเวทีให้เขา ได้โชว์ศักยภาพอย่างเต็มรูปแบบ คอยดันหลังให้เขา เเล้วเราก็ Recruit คนเก่งๆเข้ามาอยู่ในบริษัทเเละสอนคนของเราให้เก่งขึ้นเเละฉายวิสัยทัศน์ให้เขา มันก็สนุกเเละเป็นการผสมประสานกันอย่างลงตัว

Q : เข้ามาทำธุรกิจ SKY นานเท่าไหร่แล้ว ?
จริงๆผมเริ่มงานไอทีมาก็ 1 ปี เเละอีกประมาณ 8 เดือน กับในรูปแบบ SKY เรียกว่าธุรกิจผู้รับเหมางานระบบเเล้วพอเราเปลี่ยนมาเป็น SKY ICT ชื่อเดิมคือ CCN อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯตั้งเเต่ปี 2557 พอเปลี่ยนชื่อเราเดินหน้าวิสัยทัศน์ใหม่ เราต้องการที่จะเติบโตในเเง่ของ ICT (lnformation and Communication Technology) เพราะมันไปไกลกว่าไอทีเเล้ว เราจะเดินสายงาน ICT ไม่ใช่เเค่ ICT เเต่เราเน้น Security ทั้ง Cyber Security , Physical Security ที่เป็นที่ต้องการ ต่อไปไทยเเลนด์ 4.0 ที่เป็นนโยบายของรัฐบาล ถ้าโฟกัสลงมา 1 ใน 5 ข้อ คือการเติบโตด้าน IOT Internet of Things ทุกคนอยู่ในโลกของอินเตอร์เน็ต ในทางกลับกันง่ายมากที่จะถูก Hack เข้ามา ทุกอย่างมันออนไลน์ได้หมดเเล้ว ยิ่งคุณเข้าไปอยู่ในโลกออนไลน์มากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ถูก Hack เข้ามาได้ง่ายเท่านั้น เพราะฉะนั้นขอดีของการมี Cyber Security หรือ Firewall คือการป้องการสิ่งเเปลกปลอมที่จะเข้ามาในระบบ SKY ICT จะเจาะทางด้าน Security ทั้ง Physical Security ระบบกล้องวงจรปิด CCTV ฯลฯ ทั้งหมดมันคือระบบการรักษาความปลอดภัยอันนี้ก็คือการทำงานของ SKY ICT

Q : ในรอบปี2560 ที่ผ่านมา อะไรทำให้เกิดความสำเร็จกับการจับมือของค่ายอื่น ?
ต้องเรียนว่าปีที่เเล้ว 2560 เราชนะการประมูล งานใหญ่ๆที่เราชนะ 3 งานหลัก คือ งานที่ท่าอากาศยานของประเทศไทย 2 งาน ได้เเก่ การให้บริการจัดซื้อเเละให้บริการรถเข็น กระเป๋าเดินทางอันนี้เป็น Contact 7 ปี มูลค่างาน 821 ล้านบาท เเละ การติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV ให้กับสนามบินสุวรรณภูมิ 434 ล้านบาท อีกงานหนึ่งคือการติดตั้งอินเตอร์เน็ตชายขอบของ CAT Telecom 438 ล้านบาท รวม 3 งานประมาณ 1,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานคอนซอร์เตียม (Construction Contract) และเราโยนมาเป็น Backlog ของปี 2561 ก็ไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท

Q : Business Plan ของ SKY ใน ปี2561 วางไว้อย่างไร ?
วิสัยทัศน์ของเราจะเป็นผู้ให้บริการทางด้านระบบรักษาความปลอดภัย คือ Cyber Security , Physical Security อันนี้คือสิ่งที่เราจะเดิน เเต่เเน่นอนอย่างอื่นที่เป็นรากฐานของระบบ ICT เช่น การวางระบบ Network การวางระบบ wifi ก็ยังให้บริการอยู่ เเละนอกเหนือจากนี้ยังมีงานที่เราเรียกว่า Non-IT เป็นโอกาสที่จะเข้าประมูลงาน ทางด้าน Non-IT เข้ามาเสริมความมั่นคงของบริษัท

Q : จะมี Non-ICT กี่งานที่เราจะเข้าไปประมูล ?
ขึ้นอยู่กับโอกาสครึ่งปีเเรก อาจจะเห็นงานด้าน Non-ICT สัก 1-2 งาน แต่ต้องรอติดตามครับ

Q : ปี 2561 ตั้งเป้า โตสักกี่เปอร์เซ็นต์ ?
นับว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทายมากจาก 2560 ไป 2561 เราวางเเผนว่าต้องโตเเบบก้าวกระโดด ต้องรอดูว่าเป็นอย่างไรทั้งรายได้ทั้งกำไร เเต่เราก็มีในส่วนของรายได้ มี Backlog อยู่เเล้ว 700 ล้านบาท ซึ่งเฉพาะ Backlog ก็ถือว่าโตกว่าปี 2560 เเล้ว ส่วนกำไรเป็นโจทย์ของฝ่ายบริหารที่ต้องบริหารจัดการโครงการในส่วนต่างๆที่เราชนะมา ต้นทุนเพื่อสร้างประสิทธิภาพให้กับธุรกิจเพื่อให้ Margin สูง ลด Cost ให้มีการบริหารต้นทุนที่ต่ำเเต่มีประสิทธิภาพ ซึ่งตรงนี้เป็นโจทย์ที่ท้าท้ายมาก

Q : ต้นทุนการเงินฐานทุนพอหรือเปล่า ?
ณ ตอนนี้ที่เราวางเเผนไว้ก็เพียงพอ ปีที่เเล้วเรามีการเพิ่มทุน ในช่วงเดือนสิงหาคม จำนวนเงินที่เราเพิ่มทุนบางส่วนเราก็นำมาจ่ายชำระเพิ่ม ในบางส่วนก็นำมาใช้สำหรับทำโปรเจค 3 โปรเจค ส่วนที่เหลือก็นำมาเป็นหลักประกันในการเข้าไปขอ BG จากธนาคารเพิ่มเตรียมการไปเพื่องานอื่นๆต่อไป ซึ่งงานนี้จากที่คาดการณ์ก็ยังเพียงพออยู่

Q : ปีที่ผ่านมาบอร์ดมีการอนุมัติเข้าซื้อหุ้นบริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (TKC)
TKC มีความเชี่ยวชาญสูงทางด้านโทรคมนาคม เป็นบริษัทที่เปิดมา 15 ปีเเล้ว เเล้วในโลกของตลาด ICT มันมีงานด้านโทรคมนาคม เเละ ด้าน IT ของ SKY เน้นงานด้าน IT ในเเง่ธุรกิจเราก็จะมีเม็ดเงินที่อยู่ในตลาด ICT ประเภทนี้อยู่ ทำยังไงที่เราจะมีส่วนเเบ่งรายได้ส่วนอีกส่วน ซึ่งส่วนนี้คือโทรคมนาคมเป็นส่วนที่กว้างมากพวกงาน Telecom การที่เขามีสัญญานโทรศัพท์ก็ต้องอาศัยโทรคมนาคม เเต่เราเองไม่ได้มีวิศวกรสายนี้เพราะเราเน้นเเต่ด้าน ICT เเต่ทำไงที่จะทำให้เรามีโอกาสที่จะไปเพิ่มรายได้อีกฝั่ง โดยที่ไม่เสียต้นทุน งั้นวิธีที่ดีสุดคือการจับมือกับ TKC ซึ่งเชี่ยวชาญเกี่ยวกับโทรคมนาคม มาเเชร์ธุรกิจกัน

Q : SKY ถือหุ้นประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ ?
ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 เราก็จะเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติการเพิ่มทุน เพื่อที่จะนำการเพิ่มทุนมาเพิ่มในส่วนของ KTC ถ้าสำเร็จ SKY ก็จะถือหุ้น 34 % ขณะเดียวกันคุณพิมาน เตียวตรานนท์ ที่เป็นกรรมการก็จะลาออกจากกรรมการ เเละนำหุ้นมาลงที่ SKY ที่ 18 % ผู้ถือหุ้นก็จะได้ประโยชน์โดยตรง เเต่ก็จะได้งบในส่วนมีผลปี 2561 เเละขณะเดียวกันก็จะเพิ่มโอกาสทางด้านธุรกิจให้สามารถเข้างานได้หลากหลายมากขึ้นด้วย

Q : TKC มีโอกาสจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นหรือไม่ ?
ผมคิดว่าทางกรรมการเขาก็น่าจะมีวิสัยทัศน์ที่จะจดทะเบียนเหมือนกันเราก็ให้เกียรติเขาตัดสินใจเเต่ก็เชื่อว่าน่าจะดูๆอยู่เหมือนกันต้องติดตามกันต่อไป

Q : พอใจกับสภาพคล่องของหุ้น SKY มากน้อยเเค่ไหน ?
ตอนนี้เราพยายามทำธุรกิจให้ประสบความเสร็จได้งานมา ชนะงานมา บริหารธุรกิจให้เกิดผลกำไรกับบริษัท ให้ผู้ถือหุ้นได้ประโยชน์กับไปได้สูงที่สุด เรื่องหุ้นไม่ได้โฟกัสเลยเพราะเชื่อว่าถ้าทำงานได้ดีมันก็จะ Effect กลับไปที่ราคาหุ้นเอง และถ้าเราสามารถสร้างความมั่นใจให้ผู้ถือหุ้นได้ หุ้นนั้นก็มีโอกาสที่จะไต่ขึ้นมาด้วยตัวของมันเอง

Q : ในฐานะที่เราเป็น CEO ของ SKY เราอยากให้หุ้นเป็นหุ้นประเภทไหน ?
เราอยากสร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้นและสร้างความมั่นคงให้กับ SKY ICT ถ้าบริษัทมีความมั่นคงผู้ถือหุ้นมั่นใจในตัว SKY จริงๆ มูลค่าหุ้นก็จะสูงขึ้นและมีเสถียรภาพ เราอยากจะเป็นแบบบลูชิพ (Blue-chip)”หมายถึงว่าเป็นหุ้นที่เป็น Top 3 ของลิสต์หุ้นในมือผู้ถือหุ้น ว่าถ้าซื้อหุ้น SKY ถือแล้วสบายใจ มีผลตอบแทนสูง มีเงินปันผล เป็นหุ้นที่เสถียรภาพสูง

Q : ประชุมบอร์ดเรื่องงบในครั้งนี้ จะมีปันผลให้กับผู้ถือหุ้นหรือไม่?
ยังไม่ทราบ ตรงนั้นก็ยังบอกไม่ได้ แต่ที่บอกตรงนี้ได้ก็คือ เราเป็น CEO ทุกการตัดสินใจในคณะกรรมการผมเชื่อมั่นว่าเพื่อประโยชน์สูงสุดให้กับผู้ถือหุ้นแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นระยะสั้น ระยะยาวแน่ครับ

Q : มีแพลนจะระดมทุนในรูปแบบ ICO หรือเปล่า ?
ICO กำลังมาเเรงซึ่งเราก็กำลังศึกษาอยู่ ตอนนี้เราอยู่ใน IPO เราก็มองขึ้นไปว่า มันมี ICO ที่เป็นการระดมทุนจากประเทศต่างๆได้ เเละต้องมั่นใจว่าจะได้รับผลตอบเเทนที่ค่อนข้างสูงสมควร เราก็พิจารณาอยู่ว่าเราจะมีโมเดลธุรกิจอย่างไรที่จะตอบสนองการลงทุนประเภทนี้ให้ได้อยู่รอกติกา ต้องศึกษารายละเอียดทางกฎหมาย ทางการเงิน ทั้งภาครัฐเองต้องรอดูผลว่าจะเป็นอย่าง ต้องศึกษาอีกเยอะพอสมควร

Q : ศักยภาพของ SKY สามารถทำ Blockchain ได้ไหม ?
ตอนนี้เทคโนโลยีไปไกลมากโดยเฉพาะ FinTech Blockchain ต่างๆนาๆเราเรียนรู้จากการเติบโตของ FinTech เเต่เรายังไม่เข้าไปแตะ เราโฟกัสในส่วนงานที่เราเป็นมืออาชีพเพราะการเป็นผู้รับเหมางานระบบต้องอาศัยความระเอียดอ่อนเเละความเชี่ยวชาญของวิศวะกรอย่างเเท้จริง เพราะฉะนั้น สโคปงานของปีนี้จะเป็นงานที่เราเชี่ยวชาญเท่านั้น เราต้องสร้าง โปรไฟล์ให้บริษัทเเละวิศวกรในมือของเราให้มีความเชี่ยวชาญยิ่งขึ้น ต้องมีส่วนเเบ่งการตลาดที่มาก ปีนี้เราตั้งเป้าว่าต้องโต ในสิ่งที่เราเเข็งเเกร่งจะได้โตเเบบยั่งยืน

Q : ฝากถึงนักลงทุน และผู้ถือหุ้น SKY ?
ฝากนักลงทุนทุกท่านว่า อยากลองให้พิจารณาหุ้น SKY ดูว่า SKY ICT ก็เป็นบริษัทน้องใหม่ที่มีศักยภาพในธุรกิจ ICT แล้วปัจจุบันอุตสาหกรรม ICT เป็นอุตสาหกรรมที่เป็น Sunrise business ที่โตตลอดเวลา แล้วในช่วงปีนี้ในอีกไม่กี่ปีก็จะเห็นการเติบโตบริษัทในธุรกิจอุตสาหกรรมนี้อย่างแน่นอน เพราะว่าถ้าย้อนกลับไปดูนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 เป็นนโยบายที่ดีมาก แล้วก็จะช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมให้โตอย่างรวดเร็ว พออุตสาหกรรมโต บริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งอยู่ในSunrise business ก็จะโตตามไปด้วย เพราะฉะนั้นในช่วง 1 - 2 ปีนี้จะเห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของบริษัทที่อยุ่ในธุรกิจ ICT ซึ่ง SKY ก็มีความชัดเจนที่จะโตในเรื่องของ Security ทั้งระบบ Physical Security ,Cyber Security ซึ่งเป็นความต้องการของตลาดของประเทศไทยอย่างแน่นอน

----จบ----
By : ชนิภรณ์ ฝอยทอง / สิทธิโชค ก้อนศิลา