Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

คัมภีร์หุ้น By ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ : FED เศรษฐกิจ และตลาดหุ้น : ความจริง และความเข้าใจผิดๆ

8,747

 

By ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ เลขที่ใบอนุญาต 12888
บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษการลงทุนต้นธารคอร์ปอเรชั่น
(ก่อตั้งพศ.2540 อยู่ใต้การกำกับกลต.)

 

 

 

 

 

 

 

มาดูสถิติสำคัญๆเรื่อง FED ขึ้นดอกเบี้ย และผลต่อตลาดหุ้นกันดูนะครับ

 

1.นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1955 (พ.ศ.2498) มาถึงเวลานี้ FED ได้ขึ้นดอกเบี้ยมาแล้ว 14 ช่วงเวลา หนล่าสุดคือตอนปี 2016

 

2.การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น จะเป็นซีรีส์ ไม่ใช่ตูมเดียวจบ แต่ละครั้งจะกินเวลาประมาณ 1-2 ปี

-โดย 8 ครั้งกินเวลาไม่เกิน 1 ปี
-อีก 6 ครั้ง กินเวลา 2 ปี

 

3.มากถึง 12 ใน 14 ครั้งที่ FED ขึ้นดอกเบี้ย แล้วส่งผลให้ตลาดหุ้นเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง ( รวมทั้งเที่ยวล่าสุดเมื่อปี 2016 ด้วย )

 

4.เฉลี่ย 3ปีครึ่ง ภายหลังจาก FED ขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะย่างเข้าสู่ขาลง เพราะต้นทุนการเงินสูง และหุ้นจะตกต่ำ ที่ชัดเจนในเรื่องนี้คือ

 

*หลังขึ้นดอกเบี้ยในคราวปี 1983 ต่อมาอีก 4 ปี เกิดเหตุการณ์ Black Monday ในปี 1987

 

*คราวขึ้นดอกเบี้ยในปี 1994 มาเกิดเหตุวิกฤตต้มยำกุ้งของไทยและกระทบทั่วเอเชียในปี 1997 หรือ 3 ปีหลังขึ้นดอกเบี้ย

 

*รอบขึ้นดอกเบี้ยในปี 2004 พบว่าหลังจากนั้น 4 ปี คือ ปี 2008 เกิดวิกฤตซับไพร์มโลน นำไปสู่วิกฤตการณ์ HAMBURGER CRISIS และหุ้นอเมริการ่วงหนัก ฉุดตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงตามมา)

 

*หนล่าสุดตอนขึ้นดอกเบี้ยรอบปี2016-ผมเคยเขียนพยากรณ์ไว้ว่า ถ้าเป็นไปตามอัตราเฉลี่ยนี้ ตลาดหุ้นอเมริกาและเศรษฐกิจจะเข้าสู่วัฏจักรขาลงและเจอวิกฤตในราวปี 2019-2020 โดยประมาณ (ดูที่ผมนำบทบันทึกที่เขียนพยากรณ์ไว้เมื่อต้นปี2016้ ตามลิ้งค์นี้ https://www.facebook.com/photo/?fbid=2143893542329392&set=pcb.2143896102329136)


ผลปรากฎว่า มาเกิดวิกฤต COVID-19 ในปี 2020 และหุ้นอเมริกา หุ้นโลก เศรษฐกิจโลกร่วงลงหนัก ซึ่งก็น่าทึ่งว่าเป็นไปตามรอบเวลารอบวัฏจักรที่พยากรณ์ไว้จริงๆ

 

5.ในเที่ยวนี้หาก FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในราวสิ้นปี 2023 ตามที่เป็นข่าวล่าสุดนี้ เราก็จะได้เห็นตลาดหุ้นอเมริกา และตลาดหุ้นโลกขึ้นไปราว 3-4 ปี คือระหว่างปี 2024 ถึง 2027 พอปี 2027 - 2028 ก็จะเกิดวิกฤตเศราฐกิจอีกรอบ หากรอบวัฏจักรเรื่องนี้ยังคงแม่นยำอยู่ต่อไปนะครับ

 

6.ตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นประเทศ Emerging Market ก็ไม่ได้ร่วงลงจากการขึ้นดอกเบี้ยของ FED อย่างที่เข้าใจกันผิดนะครับ ก็ขึ้นตามตลาดหุ้นอเมริกาไปราวๆ 4 ปี เช่นกัน โดยมีสถิติที่น่าสนมใจด้วยว่า ตลาดหุ้นไทยและ EM จะตกในช่วงเฉลี่ย 2 เดือนแรกของการที่ FED ขึ้นดอกเบี้ย แต่พอผ่านไป 6 เดือน หุ้นจะขึ้นไปราว 20% พอผ่านไป 1 ปี ขึ้นราวๆ 12.40% (ซึ่งหนล่าสุดในรอบขึ้นดอกเบี้ยปี 2016 ก็มีสถิติแบบนี้เช่นกัน)

 

7.แล้วทำไมข่าว FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปใน 2023 หรืออีกราว 2ปี ข้างหน้า จึงเป็นข่าวเขย่าขวัญคนในตลาดหุ้น ในเมื่อสถิติที่ผ่านมาพบความสัมพันธ์ว่าทำให้ตลาดหุ้นขึ้นไปตั้ง 3-4 ปี ก็เนื่องมาจาก

 

        7.1 FED ร่นเวลาที่จะขึ้นดอกเบี้ยไวขึ้น แลัวิตกว่าตะเลิกอัดฉีดเศรษฐกิจ เลิกซื้อพันธบัตร เลิก QE เนื่องจากคนในตลาดนั้นเสพติดมาตรการอุ้มเศราฐกิจ แม้ว่าตัวเลขบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อขึ้นมาเยอะ สมควรต้องเลิกอุ้มแล้วก็ตาม


        7.2 เพราะคนเกรงกันว่ากองทุนฝรั่งจะพากันขายหุ้นไทยแล้วขนเงินกลับสหรัฐอเมริกา เอาไปฝากดอกเบี้ยดีกว่าเล่นหุ้น ซึ่งเคยเกิดขึ้นในครั้งก่อน ตลาดหุ้นไทยรวมทั้งโซน TIP (ไทย , อินโดนีเซีย , ฟิลิปปินส์) ลงมามาก เพราะนักลงทุนต่างชาติขายออกเยอะ และเกิดกระแสเงนไหลออก (Fund out flow)

 

เหตุที่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากหลังวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ 2008 มีเงินไหลเข้า (Fund in flow) จากอเมริกามาตลาดหุ้นโซน TIP เยอะมาก จนให้ผลตอบแทนสูงติดอันดับโลก พอมีข่าวว่าตอนนั้น FED จะขึ้นดอกเบี้ยในปี 2016 เลยมีเงินไหลออกจากตลาดโซน TIP ตลอดปี 2015 หุ้นตกไปราวๆ 25%

 

หนนี้คนเลยกลัวว่า ในช่วงนี้ไปถึงปี 2023 ก่อน FED จะขึ้นดอกเบี้ย เลยกลัวว่าจะมีการขายหุ้นโซน TIP และเกิด Fund out flow ซ้ำรอบกับหนก่อน...!

 

อย่างไรก็ตามผมขอให้ข้อสังเกตว่า หนนี้กับตอนหนก่อนนั้นต่างกันไปคนละแบบคือ

 

หนก่อนนั้น มีเงินไหลเข้่า Fund in Flow ต่อเนื่อง พอจะขึ้นดอกเบี้ยค่อยมา Out flow ไหลออก

 

แต่หนนี้กองทุนต่างประเทศ ได้ขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องมาตลอด 10ปี มานี้ มากกว่า 2.5 ล้านล้านบาทแล้ว (ดูลิ้งค์ รู้จักฝรั่งที่เทขายหุ้นไทยมาตลอด 10ปี 2.4 ล้านล้าน ฝรั่งพวกนี้เป็นใครมาจากไหน เล่นหุ้นแบบไหน ขายแล้วลงทุกครั้งหรือไม่ เราต้องรับมือเขาอย่างไรจึงจะชนะเขาได้ http://thailworld.blogspot.com/2021/05/1024.html )


และพบว่าในการขายของฝรั่งนั้นไม่ใช่ทุกครั้งที่ทำให้ตลาดหุ้นตก อย่าง้อย 4 ครั้งใหญ่ๆที่ตลาดหุ้นไทยขึ้น รวมทั้งเที่ยวล่าสุดหลัง COVID-19 นี้ด้วยที่แรงขายของฝรั่งไม่ได้ทำให้หุ้นไทยตก

 

สรุป


1.เป็นความเข้าใจผิดที่ว่าการขึ้นดอกเบี้ยของ FED นั้นทำให้หุ้นไทยตก แต่ความจริงคือตกช่วงสั้นๆ 2 เดือนแรกหลังขึ้นดอกเบี้ย จากนั้นขึ้นไปยาวราวๆ 4 ปี


2.ตลาดเคยตกก่อนการขึ้นดอกเบี้ยในรอบก่อนตอนปี 2015 เพราะก่อนนั้นมี Fund in flow พอจะขึ้นดอกเบี้ยก็เลย Out flow แต่หนนี้ต่างไป เนื่องจากฝรั่งขายหุ้นยไทยมาล่วงหน้าต่อเนื่องแล้ว 10 ปี และขายออกไปมากกว่า 2.5 ล้านล้านบาทแล้ว ก็จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใตจอะไรวา่าจะเกิด Fund out flow อีก เพราะมันก็เกิดมาต่อเนื่องแล้ว 10 ปี

 

ทางที่ดีเราควรเอาใจช่วยให้ FED ขึ้นดอกเบี้ยไวๆจะได้จบความกังวล และตลาดหุ้นจะขึ้นไปอีกราว 4 ปี แล้วค่อยไปเจอวิกฤตรอบใหม่ในราวปี 2027-2028 ครับ

 

โชคดีมีกำไรปลอดภัยในการลงทุนทุกท่านครับ

 

ติดตามเราช่องทางอื่นๆได้ที่


Facebook : http://fb.com/tontancorp
Youtube : https://goo.gl/J9u1jm

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้