นับถอยหลังหุ้น "โออาร์" ที่นักลงทุนหลายคนรอคอยและจับตามองแห่งปี 2564 ใกล้ขาย IPO มาทุกขณะ โอกาสครั้งสำคัญในการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ด้วยศักยภาพ IPO น้องใหม่ที่เติบโตโดดเด่นและไปได้สวย โดยล่าสุด โออาร์ กำหนดช่วงราคา IPO ที่ 16-18 บาท/หุ้น และคาดว่าจะสามารถดำเนินการประกาศราคาเสนอขายสุดท้ายอย่างช้าภายในเวลา 9.00 น. ของวันที่ 3 ก.พ.64 ผ่านเว็บไซต์ของ โออาร์ (www.pttor.com) และการรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของ ปตท. ผ่านเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (www.set.or.th) (เว้นแต่มีเหตุขัดข้องประการอื่น)
สาเหตุที่หุ้น IPO โออาร์ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมากในการเข้ามาระดมทุนครั้งนี้ เพราะ โออาร์ มีเป้าหมายชัดเจนที่จะสร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มขีดความสามารถขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันการเติบโตของธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ด้วยโครงสร้างธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งของทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน ที่มีทั้งการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมแบบค้าปลีก และแบบพาณิชย์
โดย โออาร์ เป็นผู้นำอันดับ 1 จากส่วนแบ่งการตลาดของตลาดค้าปลีกน้ำมันกว่า 23 ปี (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 โดยกรมธุรกิจพลังงาน)
กลุ่มธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่น ๆ (Non-Oil) ที่ครอบคลุมทั้งธุรกิจร้านกาแฟ ร้านอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ ร้านสะดวกซื้อ และการบริหารจัดการพื้นที่เพื่อให้เช่าภายในสถานีบริการ และพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการอื่นๆ
กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ โออาร์ นำธุรกิจน้ำมันและธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่น ๆ ไปสร้างความภาคภูมิใจในแบรนด์ไทยถึง 10 ประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2563)
ธุรกิจของ โออาร์ เติบโตไปพร้อมกับประเทศไทยอย่างแข็งแกร่ง โดยผลการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีรายได้ที่เติบโตเฉลี่ยปีละ 3.1% จากกว่า 540,000 ล้านบาทในปี 2560 สู่กว่า 570,000 ล้านบาทในปี 2562 ส่วน EBITDA ที่เติบโตเฉลี่ยปีละ 3.5% จากกว่า 15,000 ล้านบาทในปี 2560 สู่กว่า 17,000 ล้านบาทในปี 2562 และกำไรสุทธิ ที่เติบโตเฉลี่ยปีละ 5.6% จากกว่า 9,700 ล้านบาทในปี 2560 เป็นกว่า 10,800 ล้านบาทในปี 2562 (อ้างอิงข้อมูลทางการเงินรวมเสมือนสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 และงบการเงินรวมตรวจสอบตามกฎหมายสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562)
การเติบโตดังกล่าวมาจากการขยายจำนวนสาขาของสถานีบริการน้ำมัน และร้านค้า ทั้งในกลุ่มธุรกิจน้ำมันและกลุ่มธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนสินค้าที่ขายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำนวนเครื่องดื่มของ Café Amazon ที่ขายได้เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยกว่า 20% ต่อปีในช่วงปี 2560 – 2562 จากการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมสร้างแบรนด์กาแฟของไทยให้ได้รับการยอมรับในระดับสากล
จากการรวมพลัง 3 กลุ่มธุรกิจ ทำให้ โออาร์ มีพอร์ตฟอลิโอที่มีแหล่งรายได้ที่หลากหลาย ช่วยกระจายความเสี่ยง และสามารถต่อยอดการเติบโตซึ่งกันและกันในแต่ละกลุ่มธุรกิจ โดย โออาร์ มีสัดส่วนรายได้ก่อนหักรายการระหว่างกันในปี 2562 แบ่งได้เป็น กลุ่มธุรกิจน้ำมัน 91.1% (539,835.4 ล้านบาท) กลุ่มธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่น ๆ 2.9% (17,016.2 ล้านบาท) กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ 5.7% (33,656.9 ล้านบาท) และธุรกิจอื่น ๆ 0.3% (1,714.2 ล้านบาท) (อ้างอิงงบการเงินรวมตรวจสอบตามกฎหมายสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562)
ขณะที่กลุ่มธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่น ๆ (Non-Oil) นับได้ว่าเป็นดาวรุ่งของ โออาร์ ที่เติบโตอย่างรวดเร็วด้วย EBITDA (ก่อนหักรายการระหว่างกัน) ที่เติบโตเฉลี่ย 8.3% ต่อปี จากประมาณ 3,626 ล้านบาท ในปี 2560 เป็นประมาณ 4,255 ล้านบาท ในปี 2562
เหลียวมองกลยุทธ์ โออาร์ ตั้งธงธุรกิจหลัง IPO ที่จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนร่วม “เติบโตไปไกลขึ้น” กับ โออาร์ โดยวางกลยุทธ์รักษาสถานะความเป็นผู้นําในกลุ่มธุรกิจน้ำมันทั้งในตลาดค้าปลีกและตลาดพาณิชย์ในประเทศไทย ตั้งเป้าเพิ่มจํานวนสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ให้ครอบคลุมกว่า 2,500 แห่งภายในปี 2568 เพื่อให้ โออาร์ เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง โดยตั้งเป้าให้มีสถานีบริการน้ำมันแบบที่ผู้แทนจำหน่ายเป็นเจ้าของและดำเนินการเอง (Dealer-Owned-Dealer-Operated หรือ DODO) ในอัตราส่วนร้อยละ 80 และสถานีบริการน้ำมันแบบที่ โออาร์ เป็นเจ้าของและดำเนินการเอง (Company-Owned-Company-Operated หรือ COCO) ในอัตราส่วนร้อยละ 20
โออาร์ พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมระดับพรีเมียมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและราคาที่สูงกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไป ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้สูงขึ้น และยังมีระบบ Big Data Analytics เพื่อสํารวจความต้องการของผู้บริโภคเพื่อนํามาสร้างแคมเปญ การตลาดที่ตรงใจกับผู้บริโภคได้เป็นรายบุคคลผ่าน Loyalty Program
อีกทั้งจะยังเดินหน้าพัฒนาสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ตามแนวคิด “Living Community เติมเต็มทุกความสุข” โดยการคัดเลือกสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ได้อย่างลงตัว ให้เป็น One-Stop Service ที่แท้จริง ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของชุมชนโดยรอบสถานีบริการน้ำมัน
นอกจากนี้ โออาร์ ยังคงแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง (New S-Curve) เช่น การติดตั้ง EV Charging Station ในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station
สําหรับตลาดพาณิชย์จะรักษาความเป็นผู้นําตลาดด้วยการเป็น Energy Solution Provider เป็นคู่คิดในการดําเนินธุรกิจของลูกค้าอย่างครบวงจร ไม่เพียงแต่การเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ยังให้คําปรึกษาในการดําเนินธุรกิจของลูกค้าด้วย
โออาร์ พร้อมที่จะมุ่งส่งเสริมการเติบโตของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่นๆ (Non-Oil) ในประเทศเพื่อกระจายฐานรายได้ และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรโดยรวมของ โออาร์ และไม่เพียงแต่ธุรกิจ Non-Oil ในสถานีบริการน้ำมันเท่านั้น โออาร์ ยังขยายธุรกิจ Non-Oil ไปยังนอกสถานีบริการน้ำมันด้วยเช่นกัน ซึ่งรวมถึงการหาพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อร่วมกันพัฒนาและขยายธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ หรือผ่านการเข้าซื้อกิจการหรือร่วมทุนกับผู้ประกอบธุรกิจรายอื่น
โออาร์ ตั้งเป้าที่จะขยายร้าน Café Amazon อีกกว่า 2,100 ร้านภายในปี 2568 นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายขอบเขตการดําเนินธุรกิจกาแฟให้ครอบคลุมมากขึ้นด้วย เช่น การสร้างโรงงานเบเกอรี่ส่วนกลาง โรงงานผงผสมเครื่องดื่ม และศูนย์กระจายสินค้า เป็นต้น เพื่อรักษาคุณภาพสินค้าและสร้างความมั่นใจด้านการจัดหาสินค้าอย่างเพียงพอ รวมถึงสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้อีกด้วย
สําหรับธุรกิจ Texas Chicken โออาร์ มีแผนเปิดร้าน Texas Chicken เพิ่มอีกประมาณ 20 สาขาต่อปี ระหว่างปี 2564 – 2568 นอกจากนี้ หาก โออาร์ ได้ดําเนินการตามเงื่อนไขของเจ้าของแบรนด์ โออาร์ จะมีสิทธิขอรับสิทธิมาสเตอร์แฟรนไชส์ในประเทศไทย ซึ่งจะทำให้สามารถให้สิทธิกับผู้ที่สนใจลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ต่อไป
โออาร์ มีโมเดลธุรกิจและแบรนด์ที่ประสบความสําเร็จและได้รับการตอบรับที่ดีในประเทศไทย จึงนําโมเดลธุรกิจดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ ประกอบกับความเชี่ยวชาญในการดําเนินธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่นกว่า 40 ปี ในการขยายตลาดทั้งธุรกิจน้ำมันและธุรกิจ Non-Oil ไปในระดับภูมิภาคและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยในอนาคต โออาร์ มีแผนเปิดสถานีบริการน้ำมัน PTT Station เพิ่มอีกกว่า 350 แห่ง และเปิดร้าน Café Amazon เพิ่มอีกกว่า 310 สาขาในประเทศฟิลิปปินส์ กัมพูชา และลาว ภายในปี 2568
นอกเหนือจากการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว โออาร์ ยังมีแผนในการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน รวมถึงมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน ซึ่งประกอบด้วยการใช้ประโยชน์จากการมี Economy of Scale มาใช้ในการต่อยอดการลงทุนตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานจึงเป็นที่มาของการขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจให้ครอบคลุมมากขึ้น
และที่สำคัญที่สุด โออาร์ มุ่งสร้าง “คุณค่าที่ดีขึ้น” สำหรับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม เน้นสร้างเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับการสร้างประโยชน์และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ได้แก่ ประเทศชาติ สังคมชุมชน ลูกค้า คู่ค้า พนักงาน และผู้ถือหุ้น
เห็นอย่างนี้แล้ว นักลงทุน ก็คงพร้อมเป็นเจ้าของ เป็นส่วนหนึ่งของหุ้น โออาร์ กับความตั้งใจที่จะเปิดโอกาสให้คนไทยสามารถร่วมเป็นเจ้าของ โออาร์ ได้ ดังนั้นการขายหุ้น IPO ครั้งนี้ โออาร์ มีความตั้งใจที่จะกระจายหุ้นเพื่อให้ไปสู่ประชาชนอย่างทั่วถึง โดย โออาร์ จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนผ่านตัวแทนจำหน่ายหุ้น (Selling Agents) ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วประเทศ และจะใช้วิธีการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนโดยวิธี Small Lot First เพื่อให้นักลงทุนรายย่อยที่จองซื้อหุ้นผ่านตัวแทนจำหน่ายหุ้นได้รับการจัดสรรหุ้นอย่างน้อยที่ขั้นต่ำ โดยนักลงทุนรายย่อยสามารถจองซื้อหุ้นโออาร์ได้ที่ราคา 18 บาทต่อหุ้น (ราคาสูงสุดของช่วงราคาเสนอขาย 16 – 18 บาทต่อหุ้น) ได้ผ่านช่องทางการจองซื้อกับตัวแทนจำหน่ายหุ้น ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงไทย ที่สำนักงานใหญ่และทุกสาขาทั่วประเทศและผ่านช่องทางออนไลน์ ตั้งแต่ 24 ม.ค. 2564 – เวลา 12:00 น. (เที่ยง) ของวันที่ 2 ก.พ. 2564 ซึ่งราคาเสนอขายสุดท้ายจะประกาศต่อไป โดยหากราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่าราคาสูงสุดของช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้น ตัวแทนจำหน่ายหุ้นจะดำเนินการให้มีการคืนเงินค่าจองซื้อหุ้นให้แก่ผู้จองซื้อตามรายละเอียดและวิธีการในหนังสือชี้ชวน
วันนี้ โออาร์ พร้อมจะเติบโตไปไกลกว่าเดิมกับการเสนอขายหุ้น IPO ที่พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกคนมาร่วมเป็นเจ้าของ โออาร์ และเดินหน้าสู่การเติบโตครั้งนี้ไปพร้อมกัน
--ศึกษาข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://investor.pttor.com --
#หุ้นโออาร์ #หุ้นฮอตแห่งปี #หุ้นที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเป็นเจ้าของได้ #ORIPO2021 #โออาร์
By: อณุภา ศิริรวง
PTG ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน Fortune Southeast Asia 500 ประจำปี 2025 เป็นปีที่สองติดต่อกัน ...
SKIN ผนึก APM ลุยโรดโชว์ห้องค้า PST มั่นใจพื้นฐานแกร่ง นักลงทุนตอบรับดีเยี่ยม
แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ อารมณ์คอการเมือง ร้อนทันที เป็นคลิปเสียง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สนทนากับ สมเด็จฯ ฮุน..
รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68