บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) (SA) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด "Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต" ถือเป็นหุ้นไอพีโอน้องใหม่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่เตรียมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันคริสต์มาส 25 ธันวาคม 2563 ถือเป็นหลักทรัพย์ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นตัวสุดท้ายของปี 2563

 

หลังปิดการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน150 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 13.5 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ราคาเสนอขายหุ้นละ 5.50 บาท ซึ่งภายหลังจากการเปิดจองซื้อหุ้นในวันที่ 17 – 18 และ 21 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม

 

มีรายงานว่านักลงทุนรายใหญ่วิ่งหาหุ้นนอกตลาดจนฝุ่นตลบ ... สนนราคาไม่ต่ำกว่า 6 บาท/หุ้น

 

 

เพราะเชื่อมั่นในฝีมือการบริหารของ  "ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) (SA) ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ SA

 

และที่สำคัญ "ขจรศิษฐ์" ยังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นอดีตผู้บริหารระดับสูงของ บริษัท ฤทธา จำกัด (บริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของไทย)  ทำให้เขามีความรู้และเข้าใจขั้นตอนการก่อสร้างเป็นอย่างดี

 

ไม่แปลกใจที่ทำให้โครงการอสังหาฯ ภายใต้การบริหารของ SA ทำไมสามารถทำราคาได้ถูกกว่าท้องตลาดอย่างน้อยร้อยละ 15 และที่สำคัญด้วยพื้นที่ขนาดเท่าๆกัน แต่ SA สามารถสร้างคอนโดฯ ได้ในจำนวนยูนิตที่สูงกว่าคู่แข่ง อีกทั้งยังสามารถควบคุมระยะเวลาการก่อสร้างได้ตามเวลาที่กำหนด

 

เป็นที่มา ซึ่งทำให้รายได้และกำไรในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมาเติบโตอย่างก้าวกระโดด!

 

เห็นได้จากรายได้รวมในปี 2560 – 2562 ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจาก 1,434.7 ล้านบาท เป็น 2,006.6 ล้านบาท และ 3,525.2 ล้านบาทคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (Compound annual growth rate: CAGR) เท่ากับ ร้อยละ 43.2 ต่อปี  ขณะที่ 9 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน  2,060.6 ล้านบาท

 

 

ขณะที่กำไรขั้นต้นจากธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯในปี 2560 – 2562 มีจำนวน 377.1 ล้านบาท 596.4 ล้านบาท และ 1,432.2  ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 28.9 ร้อยละ 31.1 และร้อยละ 41.8 ตามลำดับ  และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทมีกำไรขั้นต้นจำนวน 862.1 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 41.8

 

มาดูในแง่ของกำไรสุทธิของ SA ในปี 2560 – 2562 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 65.7 ล้านบาท 152.3 ล้านบาท และ 618.3 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 4.6 ร้อยละ 7.6 และร้อยละ 17.5 ตามลำดับ

 

กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์และกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทมีจำนวนโครงการที่พัฒนาแล้วเสร็จและทยอยโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ลูกค้าเพิ่มขึ้น และในงวด 9 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 283.9 ล้านบาท

 

สำหรับแนวโน้มในไตรมาส 4/63 คาดว่า รายได้และกำไรจะมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากยอดโอนที่เร่งเข้ามาในช่วงไตรมาส 4 ทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ SA มีโอกาสสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

 

 

หากเปรียบเทียบอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ของ SA อสังหาฯน้องใหม่ป้ายแดง ที่เตรียมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯวันที่ 25 ธ.ค.63 กับบริษัทอสังหาฯในตลาดที่มีขนาดใกล้เคียงกันจะพบว่า กำไรขั้นต้นของ SA สูงกว่ามาก จาก "จุดแข็ง" ที่เป็นทั้ง Developer และ Construction ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนการก่อสร้างได้ดีกว่าคู่แข่งในตลาด

 

ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2563 อัตรากำไรขั้นต้นของ SA อยู่ในระดับสูงถึง  ร้อยละ 44.2 

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (ORI ) อยู่ที่้ร้อยละ 40.58

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) (AP) อยู่ที่ร้อยละ 30.60 

บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (NOBLE) อยู่ที่ร้อยละ 37.31 

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) อยู่ที่ร้อยละ 21.79 

บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (ANAN) อยู่ที่ร้อยละ 8.31

 

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์ ประเมินราคาพื้นฐานปี 2564 ที่ 6.45 บาท/หุ้น (PER) โดยประเมินว่า SA จะเข้าสู่ช่วงการเติบโต ด้วยอัตราการเติบโตของกำไรเฉลี่ยร้อยละ 22 ต่อปี ในช่วงปี 2563-2565 จากประมาณการรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เติบโตในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 12 ต่อปี

 

"แรงสนับสนุนหลักมาจากมูลค่าขายที่รอการโอนกรรมสิทธิ์รวมกว่า 9 พันล้านบาท โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งจะรับรู้รายได้ในปี 2565ผนวกกับโครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ และก่อสร้างที่ทยอยโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2564-2566"

 

ขณะที่ความสามารถของทีมงานด้านวิศวกรรมก่อสร้าง และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบผสมผวาน จะช่วยหนุนให้กำไรสุทธิเติบโตในอัตราที่สูงกว่ารายได้ จากการประหยัดของขนาดธุรกิจ และต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง จากสถานะการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น หลังการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์

 

"เราประเมินมูลค่าเหมาะสมของ SA ที่ 6.45 บาท อิงค่า PER เฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ระดับ 8 เท่า  ของประมาณการกำไรปี 2564 คิดเป็น PEG 0.4 ของอัตราการเติบโตกำไรในระยะ 3 ปีข้างหน้า"

 

จับตา SA เข้าเทรดในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ คงได้เห็นราคาหุ้น “แรลลี่” ฉลองวันคริสต์มาส เปิดโดดเกิน 6 บาท สร้างผลตอบแทนอย่างน่าประทับใจไม่ใช่น้อย เพราะ SA ไม่ใช่แค่ Marketing Developer แต่ SA เป็น Developer Construction ทำให้กำไรเหนือกว่าคู่แข่งในตลาดฯ เป็นหุ้นอสังหาฯ High Growth ที่น่าจับตามองในเวลานี้