Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

สัมภาษณ์พิเศษ: BKD ยั่งยืน

11,250

 

 

 

สัมภาษณ์พิเศษ: BKD ยั่งยืน

 

    "นุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ " บอส BKD วางเป้าหมายได้ปี 59 เติบโต 20 % เน้นรับงานรัฐเป็นหลัก โดยมีแผนเข้าประมูลงาน มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท หวังได้งานราวกว่า 50 % และยังตุนงานในมือ กว่า1,700 ล้านบาท หวังรับรู้รายได้ในปีนี้ 1,000 ล้านบาทที่เหลือรับรู้ไปจนถึงกลางปี 60   แถมมีไม้เด็ดส่งลูกสาวสุดสวย "ณัฐนันท์ ประสงค์ชัยกุล" เข้าบริหารงานในบริษัทฯ ล่าสุดโชว์ผลงานช่วยบริษัทให้ผลประกอบการปี 58 ทำNew High  เชิญติดตามได้เลยค่ะ 

Q : ปีที่ผ่านมาผลประกอบการเป็นอย่างไรบ้าง 
    
กำไร เราเยอะมาก ยอดขายเราก็โต ส่วนหนึ่งที่เราได้ดีเพราะเราเป็นบริษัทมหาชน  ที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีภาพลักษณ์ที่ดี ทำให้ลูกค้าก็โทรมาหาเรา  ก็จะเลือกรับงานที่ได้กำไรดีได้กำไรเร็ว ได้กำไรชัวร์ คือเราเคยตั้ง เป้าหมายไว้เรายังไงก็ต้องมีอัตรากำไรขั้นต้นไว้ 20 % แต่พอเรามีทางเลือกมากขึ้น เราก็มีอำนาจการต่อรอง  แต่ถ้างานไหนอัตรากำไรขั้นต้นมากกว่า 20 % เราก็ยินดีมาก
Q : ปีที่ผ่านมาถือว่าเหนื่อยไหมเพราะเราทำให้ผลประกอบการNew Highได้
    
เราไม่เหนื่อยเลย เพราะว่าเขาเลือกเรา เขามาเชิญเราให้ไปรับงาน เหมือนอาทิตย์ก่อนมีโรงแรมมาติดต่อให้ไปรับงาน ให้ระยะเวลา 6 เดือน เราก็มานั่งพิจารณาว่าอยู่ในสิ่งที่เราวางแผนไว้ไหม คือต้องมีกำไรขั้นต้น 20 % พอเห็นว่าเป็นตามแผนเราก็ตกลงเลย โดยมูลค่างานประมาณ 200 ล้านบาท ถือเป็นข่าวดี แต่ตอนนี้เรามีมูลค่างานในมือหรือ Backlog จำนวน 1,700 ล้านบาท โดยจะรับรู้เป็นรายได้ไปถึงกลางปี 60 แต่งานในมือยังไม่รวม 200 ล้านบาทที่ได้ใหม่ ทุกครั้งที่เรานับมูลค่างานในมือนั้นจะต้องมีการเซ็นสัญญาก่อน อย่างชิบหมงที่ได้เรามา 5 เฟสมูลค่า 1 พันล้านบาท ตอนนี้รับรู้ไปได้เล็กน้อยเอง เรายังไม่ได้นับเป็นBacklog กว่า 900 ล้านบาท เพราะงานที่บ้านเขาค่อนข้างดีเลย ที่กัมพูชาแรงงานน้อย  ถ้าเขามัดจำมาอีกเราก็จะนำมารวมใน backlog อีก 
Q : งานของชิบหมงจะเข้ามาหมอเมื่อไหร่
    
ปีนี้อาจจะเข้ามาหมดในเฟสแรก แต่ว่า 5 เฟสจะเข้ามาอีก พอสมควร เพราะอย่างเฟสแรกก็ดีเลยมา 2 ปีเลยคงจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะ  
Q : นอกจากงานที่กัมพูชาแล้ว BKD มีแผนที่จะไปต่างประเทศอย่าง พม่า หรือเวียดนามไหม
    
พม่าเราต้องยอมรับว่าการแข่งขันสูงมากและพม่ายังมีระเบียบอีก 1 ข้อ คือว่าการที่เราเข้าไปรับงานเราต้องไปจดทะเบียนบริษัทฯ แล้วต้องเอาคนพม่ามาหุ้นกับเรา ซึ่งถือว่าเป็นความยากและอีกเรื่องคือประเทศจีนเข้าไปทำธุรกิจแล้ว เพราะฉะนั้นราคาแข่งขันไม่เป็นไปตามที่เราต้องการหรือคิดไว้ ถ้าแข่งกับจีนเป้าหมายที่เราได้ไม่รู้จะได้หรือเปล่า แต่อนาคตถ้ามีงานต่างประเทศที่ได้อัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 20 % เราก็จะทำ

 Q : ในด้านแผนงาน ปี 59 BKD จะก้าวเดินอย่าไร
    
ถ้าดูจาก Backlog เรานั้น เราจะรับรู้แน่ 1 พันล้านบาทในปี 59 ไม่รวมที่เราจะไปประมูลใหม่ โดยเราจะมีการเข้าประมูลงานมูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท เป็นทั้งงานรัฐบาลและงานเอกชน โดยเรามั่นใจว่าเราจะได้ประมาณ 50 % แน่นอน เพราะว่าภาพลักษณ์เราดีค่ะ 
Q : ตลาดการตกแต่งปีนี้มีมูลค่าเท่าไหร่ได้มีการประเมินไหม
    
จริงๆประเมินยาก เพราะเราไม่รู้ว่าตึกไหนจะทำหรือไม่ทำ ทำให้หาตัวเลขไม่ได้ว่าเรามีมาร์เก็ตแชร์เท่าไหร่
Q :เราจะทราบได้อย่างไรว่าตึกไหนจะมีการรีโนเวท
    
คือจะมีบริษัทฯ กลางเป็นบริษัท คิว เอส คอนส์ จำกัด ที่ คำนวณราคาว่าจะต้องตกแต่เท่าไหร่ คือทุกคนหรือส่วนใหญ่ จะไปจ้างบริษัทฯนี้ว่าจะปรับปรุงจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ บริษัท คิว เอส ก็จะมีการเชิญบริษัทฯที่รับตกแต่งเข้าไปประมูล

Q :เห็นที่ผ่านมาเราจะทำอสังหาริมทรัพย์ด้วยและเซอร์วิซ อพาร์ทเม้น ตอนนี้คืบหน้าอย่างไรบ้าง 

     คือแผนการซื้อเซอร์วิซอพาร์ทเม้น เราชะลอเพราะผู้ขายเขามีปัญหา เราเลยหยุดค่ะ
Q : ตอนนี้เรามี แอสเซท  อะไรไหม
    
ตอนนี้เรามีที่ดินอยู่ที่ถนนกรุงเทพกรีฑา ประมาณ 20 ไร่ ซึ่งต้นทุนในการซื้อที่ดินของเรานั้นประมาณ  80 กว่าล้านบาท แต่ปัจจุบันราคาซื้อขายที่ดินตรงนั้นอยู่ที่ประมาณ  700 กว่า ล้านบาท ตอนนี้เราคิดไว้สองทางว่าจะพัฒนาเป็นหมู่บ้านเองหรือจะขายที่ดินเป่าออกไป เลย ทั้งนี้ถนนเส้นนี้เป็นถนนเส้นใหม่  ต้องรอถนนสร้างเสร็จคือประมาณ  2 ปี โดยเราก็มั่นใจว่าแปลงนี้อนาคตมูลค่าจะเพิ่มเป็น  1 พันล้านบาท ถ้าขายได้ อาจจะมีการจ่ายปันผลพิเศษเลย
Q :  ในปี 59 เรามีแผนจะลงทุนอะไรเพิ่มเติมไหม 
  
 ขณะ นี้ยังไม่มีแผนลงทุน เราพยายามที่จะรับงานให้มาก  แม้คนจะมองว่างานองเราไม่ใช่งานที่เป็นรายได้ประจำ แต่เราถือว่างานของเราเป็นงานที่มีรายได้ประจำ เป็นงานที่มีรายได้ต่อเนื่อง โดยดูย้อนหลังก็จะเห็นว่าเรามีรายได้ต่อเนื่องเข้ามาตลอด โดยที่เราไม่ต้องไปรอว่าจะทำอะไรเพิ่ม เรามั่นใจว่าอาชีพเราจะมีรายได้ต่อเนื่องแน่นอนค่ะ
Q : ปีนี้เราตั้งเป้าว่ารายได้จะเติบโตอย่างไร
    
จริงๆ เราก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่ารายได้จะเติบโต 20 % แต่หากประกาศออกมาแล้วเกินก็ถือเป็นผลดี แต่ถ้าดูจากอดีตเราก็เติบโตได้เกิน และเราก็พยายามทำให้ได้เกินเป้าหมายมาตลอด

Q : ปีที่ผ่านมาเราเติบโตได้สูงมาก ส่งผลให้ปีนี้เรากังวลไหม
    
เราไม่กลัวเลยเพราะ Backlog ใน มือเรา มีมหาศาล สิ่งที่เรากลัวคือการทำงานจะทันไหม เขาจะส่งพื่นที่ทันไหม การที่งานล่าช้าอาจจะทำให้เราไม่สามารถรับรู้รายได้ด้วยเช่นกัน 
Q : เรามีการเจรจากับพันธมิตรไหม
    
ใน ต่างประเทศไม่มี แต่ในไทยมี อย่างทีซีซีกรุ๊ป มีการตกแต่งตลอด เราก็อยากจะจับมือกับเขา เขาคิดว่าเขายอมจ้างเราเลย เพราะทางทีซีซีกรุ๊ปก็ได้ผลตอบแทนกลับ เขาก็เรียกเราเข้าไปรับงานเลย  จริงๆก็มีการทำให้หลายที่แล้ว อย่างพลาซ่าเอสทีนี ทั้งห้องพัก เป็นต้น ตอนนี้ก็เป็นโฉมใหม่เลย ถ้าใครไปก็จะสังเกตเห็น  
Q : มีตึกไหนอีกไปที่เป็นผลงานของเรา
    
ก็อย่างเช่นงานรัฐ ของโรงพยาบาลจุฬา ตึกภูมิสิ  ก็ ทำจบแล้ว  เราก็จะตามประมูลกับราชการไป เพราะราชการจะมั่นคงเรื่องจ่ายเงิน ช้าแต่ชัวร์ อย่างบางสถานการณ์เพื่อนที่รับตกแก่งด้วยกัน ไปรับงานบางโรงแรมเอกชนก็ไม่จ่ายเงินทำให้ต้องมีการฟ้องร้องกัน เราคิดว่าต้องรับงานราชการเป็นส่วนใหญ่
Q : ปัจจุบันสัดส่วนงานรัฐกับเอกชนเป็นอย่างไร 
     
ก็งานรัฐประมาณ 70 %  เอกชน 30 % 
Q : แล้วปีนี้งานประมูลภาครัฐมีเยอะไหม
     
ปีนี้ที่เห็นๆ ก็มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท

 

Q : เรามีแผนไปซื้อกินการไหม
    
เรา ก็เคยคิดว่าจะอยากไปดึงบริษัทฯ เข้ามาร่วมกับเราแต่พอไปดูผลประกอบการของบริษัทนั้นๆ  ความสามารถในการทำกำไรยังไม่ดีเท่าไหร่  ก็เลยจะเติบโตเองดีกว่า  เราขยายของเราเอง  โดยปัจจุบันเรามีเอาท์ซอร์ซ กว่า  1 พันคน และมีพนักงานเองกว่า 200 คน  แต่ เราก็ให้ใจพนักงานไม่ใช่แค่ง่ายแค่เงินดี อย่างตอนเราเข้าตลาดเราก็แบ่งหุ้นให้ลูกน้อง เพราะเขาก็จะเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทฯ เขาก็จะอยู่กัน

    


(เกศรินทร์ สำแดงภัย รายงาน;ธนัสสรณ์ เปี่ยมสมบูรณ์ เรียบเรียง;โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com )  
      
ที่มา: หุ้นอินไซด์
 

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

ผถห. SSP ผ่านฉลุย! จ่ายปันผล 0.20 บาท/หุ้น

ผถห. SSP ผ่านฉลุย! จ่ายปันผล 0.20 บาท/หุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้