Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

สัมภาษณ์พิเศษ:"อารยา-ชูเดช คงสุนทร" WICE ผู้นำอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ระดับโลก

8,049


 

 

 

 

 

 

สัมภาษณ์พิเศษ:"อารยา-ชูเดช คงสุนทร"
                             WICE ผู้นำอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ระดับโลก




                 ทีมหุ้นอินไซด์มีโอกาสได้สัมภาษณ์พิเศษ คุณอารยา คงสุนทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคุณชูเดช คงสุนทร กรมการฝ่ายการพัฒนาธุรกิจ บมจ. ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน)หรือ WICE ผู้นำอุตสาหกรมโลจิสติกส์ระดับโลก โดยวางเป้าหมายเติบโต  3-5 ปีจากนี้ หวังรายได้โตเฉลี่ยปีละ 20% พร้อมฉายภาพธุรกิจ ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร บวกกับความชำนาญในเส้นทางที่ครอบคลุมเมืองท่าหลัก ในเขตการค้าสำคัญของประเทศต่างๆ หลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา พร้อมเผยกลยุทธ์ซื้อใจลูกค้าอย่างมืออาชีพและข้อความถึงนักลงทุนที่สนใจ หุ้น"WICE"...........เชิญอ่านบทสัมภาษณ์เต็มๆ ได้เลยค่ะ



****ภาพรวมธุรกิจ WICE****

      สำหรับภาพรวมของธุรกิจ  WICE เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร (International Logistics Services & Solutions Provider) ทั้งการนำเข้าและส่งออก โดยการขนส่งทั้งทางทะเลและทางอากาศ พร้อมการให้บริการด้านพิธีการศุลกากร และการจัดการขนส่งสินค้าแบบต่อเนื่องหลายรูปแบบ ในแต่ละประเทศจนถึง ณ โรงงานลูกค้า (Door to Door Services)  WICE ได้พัฒนาการให้บริการ ทั้งทางทะเลและทางอากาศ อย่างไม่หยุดยั้ง โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ และประสบการณ์มากกว่า 20 ปี มีการบริหารจัดการที่เน้นคุณภาพ และมุ่งหวังประสิทธิผลของการให้บริการ มีการคัดสรรและเลือกลงนามเซ็นต์สัญญาร่วมกันกับผู้ให้บริการทั้งสายเดินเรือ และสายการบินที่มีจุดเด่นของแต่ละเส้นทางอย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึงความรวดเร็ว ตรงเวลา ประสิทธิภาพ และความสบายใจของลูกค้าเป็นสำคัญ บริษัทมีความชำนาญในเส้นทางที่ครอบคลุมเมืองท่าหลัก ในเขตการค้าสำคัญของประเทศต่างๆ หลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา แม้เป็นประเทศที่มีกฏระเบียบ และการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด แต่ก็เป็นประเทศที่ WICE มีความถนัดเป็นพิเศษตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้ง ทำให้บริษัทเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี เสนอบริการได้หลายรูปแบบมากขึ้น นับตั้งแต่หน้าประตูโรงงานต้นทางจนกระทั่งถึงปลายทาง ทำให้ลูกค้าทั้งผู้นำเข้าและผู้ส่งออกได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น อีกทั้ง ยังสามารถประหยัดต้นทุน ประหยัดเวลา และได้รับการประสานงานที่ไร้รอยต่ออีกด้วย สำหรับตลาดหลักรองลงมาอยู่ในแถบเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง จีน ตลอดถึง ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย นอกจากนั้น บริษัทยังมีบริการเสริมสำหรับลูกค้าที่ต้องการให้จัดการรับส่งสินค้า แบบแฮนด์แครี่ คือ สามารถบริการได้ทันที โดยให้คนเดินทางพร้อมสินค้า ใช้ในกรณีเร่งด่วนพิเศษเท่านั้น


***ทิศทางอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศในปี 58 และ 59 ***

    ช่วงต้นปีที่ผ่านธุรกิจโลจิสติกระหว่างประเทศและในประเทศชะลอตัวต่อเนื่อง จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน อย่างไรก็ตามคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ภาพรวมของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์จะ ดีขึ้นได้ โดยได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มดีขึ้น อย่างเช่นประเทศจีน ที่ภาครัฐมีการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศต่อเนื่อง และในยุโรปที่ส่งสัญญานการใช้มาตรการQE เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนเพิ่มขึ้น รวมถึงสหรัฐที่มีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตที่ชัดเจน ของภายในประเทศ โดยจากปัจจัยดังกล่าว จะช่วยหนุนให้ โลจิสติกส์ในปลายปีหน้าเริ่มฟื้นตัวขึ้นไปจนถึงปีหน้า
    "ภาพรวมของโลจิสติกส์ระหว่างประเทศจะชะลอไปพร้อมกับการส่งออก ถ้ามีการนำเข้าในประเทศน้อยก็จะโดนผลกระทบทั้งอุตสาหกรรม แต่ตลอดที่ทำธุรกิจมา20 ปีบริษัทยังสามารถทำกำไรได้ต่อเนื่องแม้ว่าจะเกิดวิกฤตต่างๆก็ตามที "
   

***การเติบโตของบริษัทในปีนี้และปีหน้า***

    บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ 5-10%หรือแตะ 800 ล้านบาทจากปีก่อนที่ทำได้ 670 ล้านบาท แม้ว่าบริษัทได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา แต่บริษัทยังสามารถขยายตลาดได้ต่อเนื่อง โดยมีลูกค้าเข้ามาติดต่อทำธุรกิจร่วมกันต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งบริษัทยังมีคลังสินค้าขนาด 13,000 ตร.ม. เพื่อไว้สำหรับรองรับสินค้าจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บรการ ซึ่งทำให้ลูกค้าสนใจในการร่วมทำธุรกิจเพิ่มมากขึ้น โดยคลังสินค้าดังกล่าวปัจจุบันเป็นการเช่ารายปี เนื่องจากบริษัทมีแผนเข้าซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียงแหลมฉบังเพื่อสำหรับก่อ สร้างคลังสินค้าหรือจะเป็นการเข้าซื้อคลังสินค้าที่มีอยู่แล้ว โดยในขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาทำเลที่ตั้งให้เหมาะสม โดยมีความต้องการราว 9,000-10,000 ตร.ม. ซึ่งบริษัทมีเงินหมุนเวียนเพียงพอสำหรับการขยายธุรกิจให้เป็นไปตามแผนที่วาง ไว้ 
    สำหรับปีหน้าบริษัทตั้งเป้ารายได้โต20%และกำไรก็โตตามไปด้วย เนื่องจากกานำเข้า-ส่งออก ที่คาดว่าจะเริ่มมีการฟื้นตัวรวมถึงมีลูกค้าใหม่ที่เข้ามาใช้บริการต่อ เนื่องจากกาขยายตลาดใหม่ที่การเติบโตสูง โดยเฉพาะในAEC ที่มีงานเข้ามาใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงตลาดหลักอย่างสหรัฐที่ได้งานใหม่เข้ามาตลอดทั้งปีทั้งลูกค้าใหม่และ ลูกค้าเก่า ซึ่งรวมถึงในยุโรปและญี่ปุ่นเช่นกัน อีกทั้งบริษัทยังมีแผนลดต้นทุนโดยการเข้าซื้อคลังสินค้าเป็นของบริษัทเองโดย ปัจบันเป็นการเช่าคลังสินค้าเป็นรายปีเพื่อใช้สำหรับรองรับสินค้าที่จะเข้า มา
   
***ในช่วงที่ผ่านมาของปี ธุรกิจเป็นอย่างไร***
     ช่วง9เดือนที่ผ่านมาในปีนี้ ยังคงทรงๆ แต่คาดว่าสิ้นปีคงดีขึ้นจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ซึ่งโดยตามหลักแล้วของธุรกิจโลจิสติกส์ในช่วงไตรมาส3 จะเป็นช่วงที่คึกคัก แต่ได้รับผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอจึงทำให้ผลประกอบการโตขึ้นไม่ดี เท่าที่ควรจะเป็น
 
***จากที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนเกิดภาวะชะลอตัวมีผลกระทบอย่างไรต่อบริษัท***

    ส่วนมากลูกค้าจีนจะเป็นงานประเภทรายโปรเจค ซึ่งมีทั้งสินค้าประเภทยา ยางรถยนต์ ฯลฯ ที่เริ่มขยายการผลิตมาบริเวณอาเซียนเพิ่มมากขึ้นโดยการตั้งเป็นโรงงาน อุตสาหกรรมบ้างหรือเป็นการส่งสินค้ามายังประเทศใกล้เคียงบ้าง ซึ่งก็มีลูกค้าเข้ามาใช้บรการอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างที่จีนเกิดภาวะเศรษฐกิจชะลอก็มีผลกระทบบ้างแต่คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัว ได้ต่อเนื่องในอนาคตจากการกระตุ้นของภาครัฐ จึงไม่ค่อยน่ากังวลมากนัก
   
***ความคืบหน้าของแผนการเจาะตลาดAECและโปรเจคใหม่ในต่างประเทศ***
    แผนการขยายเจาะตลาดในAEC กำลังเดินหน้าต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้รับงานประเภทวัสดุก่อสร้างราว500ตู้คอนเทนเนอร์ และยังมีโปรเจคถัดไปคือที่อินโดอีก 200 ตู้  อีกทั้งยังมองว่า ตลาดAEC มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอินโดนีเซียและมาเลเซีย ที่มีการส่งออก-นำเข้าที่เติบโตได้ อีกทั้งยังได้ลูกค้ารายใหม่จากสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นกลุ่มผู้นำเข้า-ส่งออก สินค้าประเภทอาหารและมีฐานลูกค้าเป็นจำนวนมาก  โดยเป็นงานประเภทตู้คอนเทนเนอร์เช่นกันโดยคาดว่าจะได้ประมาณกว่า1,000ตู้ต่อ ปี อีกทั้งยังมีลูกค้าเก่าในสหรัฐที่ทำโปรเจคใหม่โดยบริษัทจะเข้าไปร่วมทำ ธุรกิจด้วยเช่นกัน ซึ่งจะช่วยเสริมให้ผลประกอบการธุรกิจเข้าเป้าได้จากการขยายตลาดใหม่ต่อ เนื่องและการร่วมธุรกิจดังกล่าวจะช่วยหนุนให้บริษัทมีงานด้านโลจิสติกส์ ระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น
   
***ด้านสัดส่วนรายได้ในประเทศและต่างประเทศ***
    ปัจจุบันบริษัทมีส่วนส่วนรายได้จากต่างประเทศราว80%และในประเทศ20% ซึ่งมองว่ามีความเสี่ยงค่อนข้างสูงที่จะโดนภาวะเศรษฐกิจโลกกดดัน บริษัทจึงมีแผนจะผลักดันสัดส่วนรายได้ในประเทศให้เพิ่มมากขึ้น โดยจะเริ่มในปีหน้าเป็นในประเทศ 30% และในปีถัดไป(2560)เป็น35%และในปีถัดไป(2561) เป็น40% เพื่อหลีดเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในตลาดโลก และเป็นการกระจายความเสี่ยงตามนโยบายของบริษัท ซึ่งมีลูกค้าในประเทศเข้ามาติดต่อจำนวนมากและมีแผนเตรียมรองรับเรีบร้อยแล้ว ซึ่งมีทั้งงานประเภทสัญญาขนส่งระยะยาวรวมถึงงานแบบรายโปรเจค ซึ่งจะสามารถต่อยอดให้ผลประกอบการบริษัทสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง
    "หลังจากที่บริษัทได้เข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ส่งผลให้มีคนรู้จักมากขึ้น เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สนุกมากกว่าก่อนที่จะเข้าตลาด การที่ขยายสัดส่วนรายได้ในประเทศเพิ่มมากขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายบริษัท ที่จะกระจายความเสี่ยงจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน ถ้าหากเกิดการชะลอทางเศรษบกิจแบบชัดเจนจะส่งผลกระทบวงกว้างโดยรวมถึงบริษัท เช่นกัน"
   
 ***กลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัท***
    บริษัทจะเน้นรักษาฐานลูกค้าเก่าเป็นหลัก โดยการเข้าไปช่วยดูแลและให้บริการอย่างดี ทั้งการส่งมอบสินค้า ออกแบบ รวมถึงศึกษาข้อมูลต่างๆให้มีความสมบูรณ์ และดูแลในด้านเอกสารต่างๆให้มีความครบถ้วน และจะเน้นการโฆษณาคลังสินค้าของบริษัทแฝงไปด้วยเพื่อเพิ่มมาร์จิ้นให้สูง ขึ้น ซึ่งมั่นใจว่าลูกค้าเก่าจะไม่ยกเลิกสัญญาจ้าง มีแต่ทำโปรเจคถัดไปด้วยกัน รวมถึงมีลูกค้าใหม่ที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น

 ***วิธีการเอาชนะคู่แข่ง ***
    บริษัทจะเน้นทำงานกับลูกค้า เข้าไปช่วยบริหารจัดการโปรเจคต่างๆให้สามาถผ่านไปได้ และสามารถส่งมอบสินค้าให้ตรงตามเวลาที่กำหนด และยังให้คำปรึกษาและยังให้สิทธิพิเศษในด้านภาษีต่างๆรวมถึงเอกสารต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก หากเกิดการผิดพลาดอาจโดนค่าปรับจำนวนมาก จะส่งผลให้กำไรของผู้ประกอบการหายไปทันที ดังนั้นบริษัทจึงมีทีมที่มีความสามารถเฉพาะด้านมาช่วยดูแลด้านเอกสารและให้ คำแนะนำลูกค้าอย่างใกล้ชิด
    "คู่แข่งก็มี แต่ลูกค้ามั่นใจถ้าใครบริการได้ดี ก็จะใช้บริการกับบริษัทนั้น  เช่น ถ้าบริษัทที่มีปัญหา ก็จะย้ายมาใช้บริการกับเรา ซึ่งมีหลายรายเช่นกัน ช่วงที่ผ่านมามีเรื่อยๆ มีปัญหาก็บริษัทเราให้ไปช่วย โดยลูกค้าทุกรายมั่นใจว่าบริษัทสามารถจัดการได้อย่างมืออาชีพ ซึ่งก่อนที่จะรับงานจะมีการศึกษาธุรกิจของลูกค้าก่อนว่าจะทำอะไร เพื่อจะได้ง่ายต่อการบริหาจัดการ อีกทั้งยังไว้สำหรับรองรับเกิดเปิดประชาคมอาเซียน ในอนาคต เช่นถ้าลูกค้าต้องการที่จะไปในAEC ก็จะพาไป เพราะบริษัทหาพันธมิตรไว้บ้างแล้ว 
    
 ***แผนการเติบโตระยะยาวช่วง3-5ปี***
    ยังมีแผนระยะยาวโดยตั้งเป้ารายได้โตเฉลี่ยปีละ 20% โดยโตจากธุรกิจโลจิสติกส์และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในอนาคตอาจมีการควบรวมกิจการ(M&A) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงานของบริษัทให้มีความสามารถแข่งขันมากยิ่งขึ้น ซึ่งพันธมิตรที่อยู่ระหว่างการเจรจาและศึกษาดูงาน โดยจะเน้นบริษัทที่สามารถจะส่งผลให้ธุรกิจสามาถขยายตัวได้และเป็นการต่อยอด ธุรกิจให้โตขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยกาทำ M&Aดังกล่าวขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนและยังไม่สามารถเผยแพร่ ข้อมูลดังกล่าวได้ 

***ปัจจัยเสี่ยง***   
    สำหรับปัจจัยเสี่ยงบริษัทมองว่าเป็นในเรื่องของการชะลอตัวของเศรษฐกิจใน ประเทศใหญ่ๆอย่างจีนและสหรัฐเป็นต้น ซึ่งหากไม่มีกำลังซื้อ จะส่งผลให้การนำเข้าลดน้อยลงตามไปด้วย โดยบริษัทมีการปิดความเสี่ยงโดยการกระจายฐานลูกค้าให้มากขึ้นทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
   
  ***หุ้นWICE ในมุมมองของผู้บริหารเป็นอย่างไร พร้อมกับฝากถึงนักลงทุน ***

       หุ้นWICE เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี ซึ่งอยู่ระหว่างการเติบโตยังมั่นคงและทำตามแผนของบริษัทที่วางไว้ โดยมีนโยบายปันผล 50%ของกำไรสุทธิ ต่อปี และมั่นใจว่าผลประกอบการจะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและยังคาดว่าราคาหุ้นจะ สามารถเติบโตไปพร้อมกับการขยายตัวของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ



---จบ---

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

ผถห. SSP ผ่านฉลุย! จ่ายปันผล 0.20 บาท/หุ้น

ผถห. SSP ผ่านฉลุย! จ่ายปันผล 0.20 บาท/หุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้