สัมภาษณ์พิเศษ : ขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (EARTH)
EARTH เตรียมกลับเข้ามาโลดแล่นในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 18 พ.ค.นี้ ฝากผู้บริหาร คาดนักลงทุนอิง P/E ของหุ้นในกลุ่ม โดยธุรกิจใกล้เคียงกับ AGE มากที่สุด ซึ่ง AGE มี P/E อยู่ที่ 34 เท่า พร้อมจ่อปรับเพิ่มเป้าปริมาณการขายถ่านหินเพิ่มจากเดิม 1.2 ล้านตัน หลังประกาศงบ Q2/54 หลังอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าเกาหลี คาดได้ข้อสรุป Q2/54 ขณะที่เล็งเตรียมซื้อเหมืองถ่านหินใหม่ที่อินโดฯ ใช้เงินลงทุน ราว 200 ลบ.
***แผนการกลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ
EARTH จะเริ่มทำการซื้อขายในในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอในวันที่ 18 พ.ค.นี้ โดยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะช่วยในการขยายธุรกิจ และเรื่องเงินทุน ต้นทุนของเงินทุน (Cost of Fund) ซึ่งขั้นตอนของ backddor ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2553 ที่ผ่านมา โดยคงเหลือธุรกิจถ่านหินที่เราชำนาญ ซึ่งเป็นการนำเข้าจากอินโดนีเซีย นอกจากนี้ เมื่อต้นปี 2553 ที่ผ่านมาเราได้ซื้อโรงงานที่ศรีราชา จากเดิมที่เช่า โดยมีกำลังการผลิต ประมาณ 7.2 แสนตัน/ปี อยู่ห่างจากท่าเรือ 15 กิโลเมตร ในรัศมี 150 กิโลเมตร โซนตะวันออกเราสามารถรองรับลูกค้าได้ ส่วนโรงงานแห่งที่ 2 ที่บางประหัน จ.อยุธยา มีเนื้อที่ทั้งหมด 173 ไร่ ซึ่งคาดว่าในไตรมาส 3/2554 -4/2554 น่าจะเดินเครื่องได้ โดยมีกำลังการผลิต ราว 6-8 หมื่นตัน/ปี ซึ่งเรารับออเดอร์ไว้แล้ว
***คาดหวังในการซื้อขายวันที่ 18 พ.ค.วันแรก
เรื่องหุ้นต้องยอมรับว่าเราไม่มีความชำนาญ คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่อของนักลงทุน ตามธรรมชาติ แต่เราคาดว่านักลงทุนคงอิง P/E ของหุ้นในกลุ่ม ซึ่งธุรกิจของเราใกล้เคียงกับ AGE มากที่สุด โดย AGE มี P/E อยู่ที่ 34 เท่า ทั้งนี้ราคาปิดล่าสุดเมื่อปี 2548 อยู่ที่ 0.60 บาท ภายใต้ชื่อหุ้นเดิม APC
***ผลประกอบการในไตรมาส 1/2554 ที่ผ่านมา
ผลประกอบการในไตรมาสแรก ถือว่าเติบโตอย่างโดดเด่น หลังปริมาณขายถ่านหินสูงขึ้นและราคาถ่านหินจำหน่ายเฉลี่ยต่อตันปรับตัวสูงขึ้นตามภาวะราคาตลาดโลก โดยมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 879 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 180% จากช่วงปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 62.42 ล้านบาท เติบโต 693% จากช่วงปีก่อนที่มีกำไร อยู่ที่ 7.87 ล้านบาท
***แนวโน้มธุรกิจจัดจำหน่ายถ่านหินในปีนี้
ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ราคาถ่านหินปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปัจจุบันราคาอยู่ที่ระดับ 86 เหรียญ/ตัน เพิ่มขึ้น จากช่วงต้นปีที่ 75 เหรียญ/ตัน โดยค่าเฉลี่ยในไตรมาส 1/2554 อยู่ที่ 85 เหรียญ/ตัน ซึ่งราคาถ่านหินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณความต้องการในตลาดโลกสูงขึ้น หลังจากเกิดพัยภิบัติทางธรรมชาติที่กระทบต่อแหล่งถ่านหิน ทั้งน้ำท่วมที่ออสเตรเลียและวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ญี่ปุ่น ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้พลังงานทดแทน อย่าง ถ่านหิน ได้รับความสนใจและเป็นอีกทางเลือกของผู้ประกอบการ
***เป้าหมายการเติบโตในปีนี้
เราวางเป้าปริมาณจำหน่ายถ่านหินไว้ที่ 1.2 ล้านตัน เติบโต ประมาณ 50% จากปีก่อนที่มียอดจำหน่ายถ่านหินอยู่ที่ประมาณ 8 แสนตัน
***แผนขยายฐานลูกค้า
ปีนี้เราได้ขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นโดยบุกไปในโซนภาคกลางและภาคตะวันตก ซึ่งขณะนี้ได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาแล้วและจะเริ่มจัดส่งถ่านหินให้กับลูกค้า ได้ประมาณเดือนก.ค.นี้ และเราได้เดินหน้าเปิดตลาดใหม่ๆเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะจีนมีแผนที่จะเปิดตลาดโดยตรง เนื่องจากในปัจจุบันจีนกลายเป็นตลาดที่สำคัญและมีกำลังซื้อมหาศาล ทำให้มั่นใจว่าผลงานในปีนี้จะเติบโตจากปีที่ผ่านมา
***ในธุรกิจถ่านหินแบ่งผู้ประกอบการอย่างไร
ธุรกิจถ่านหินแบ่งผู้ประกอบการ 3 กลุ่ม คือ 1.MINOR คือ มีเหมืองเป็นของตนเอง คือ BANPU และ LANNA ซึ่งเรามีเป้าหมายที่อยู่ในจุดนี้ เป็นผู้ Supply กลุ่มที่ 2. TRADER คือ เป็นตัวแทนจำหน่ายของเหมือง หรือมีการถือหุ้นในเหมือง และกลุ่มที่ 3 คือ Manufacturer ซึ่งเราอยู่ในกลุ่มนี้ โดย Manufacturer เป็นผู้ซื้อจาก MINOR หรือ TRADER และมาพักไว้ที่โรงงาน และคัดแยกส่งให้กับ ผู้ใช้ (User) และจัดสต๊อกและคงสภาพให้กับลูกค้า
***สัดส่วนลูกค้า
แบ่งเป็นลูกค้าต่างประเทศ 60% ซึ่งตอนนี้เราได้เพิ่มฐานลูกค้าจาก 1 รายเป็น 3 ราย โดยเริ่มส่งมอบสินค้าให้ลูกค้ารายที่ 2 ในไตรมาส 1/2553 และอีก 40% เป็นในประเทศ โดยมีลูกค้าประมาณกว่า 100 ราย และเราเตรียมไปโซนภาคกลาง ขณะที่เรารับออเดอร์ในเครือปูนซีเมนต์ ที่จะต้องส่งมอบ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท โดยทยอยส่งมอบในเดือนมิ.ย.-ธ.ค.นอกจากนี้มีลูกค้ารายอื่นๆอีก ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าในประเทศ อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมกระดาษ อาหาร ฟอกย้อม ยาง รวมถึงโรงไฟฟ้า
***แนวโน้มราคาถ่านหิน
ราคาถ่านหินอ้างอิงกับ 2 ปัจจัย คือ ราคาน้ำมันและดีมานด์ด้วย ถ้า 2 ปัจจัยขึ้น เชื่อว่าราคาถ่านหินก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
***ประเมินราคาขายถ่านหินในประเทศ
สำหรับราคาขายถ่านหินในประเทศเฉลี่ยปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 2,500-3,000 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ 2,300-2,700 บาท/ตัน มองว่าราคาขายถ่านหินในตลาดโลกยังมีแนวโน้มขาขึ้น เนื่องจากอิงจาก 2 ปัจจัยดังกล่าว ซึ่งหากเพิ่มขึ้น จะหนุนให้ราคาถ่านหินในตลาดโลกปรับสูงขึ้น จากไตรมาส 1/2554 ราคาถ่านหินเฉลี่ยอยู่ที่ 85 ดอลลาร์/ตัน
***แผนการลงทุนซื้อเหมืองถ่านหิน
เรามีการเจรจาซื้อเหมืองในอินโดนีเซีย ซึ่งมีการเจรจามาระยะหนึ่งแล้ว แต่ที่ผ่านมาเรายังไม่มีความพร้อม โดยขนาดของเหมือง เรามองปริมาณสำรอง เริ่มต้น 5 ล้านต้น/ปี เงินลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท โดยปัจจุบันเรามีปริมาณสำรองในมือ ประมาณ 2 ล้านตัน
***แหล่งเงินทุนมาจากไหน
ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องมีการปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินก่อน ซึ่งแหล่งเงินทุนมีหลายวิธี แต่ที่สำคัญต้องหาเหมืองให้ได้ก่อน เพราะหลังจากเราเข้าตลาดฯช่องทางในการระดมทุนคงไม่ใช่เรื่องยาก
***ดีลนี้จะจบปีนี้หรือไม่เมื่อไหร่
ตอนนี้ยังให้คำตอบไม่ได้ต้องดูตรงกับงบประมาณที่เรามีหรือไม่ ปริมาณสำรองและคุณภาพเป็นอย่างไร แต่ทั้งนี้เราตั้งเป้าเป็น MINOR ปีนี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการเจรจาว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ ซึ่งหากดีลจบจะทำให้ต้นทุนของบริษัทฯต่ำลง
***ตอนนี้มีดีลลูกค้ารายอื่นอีกหรือไม่
ปัจจุบันเราอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้าจากของเกาหลี มูลค่าส่งมอบ 6 แสนตันในระยะเวลา 12 เดือน โดยคาดว่าไม่เกิน 2 เดือนน่าจะได้รับข้อสรุป หรือไม่เกินไตรมาส 2/2554 นอกจากนี้ อยู่ระหว่างเจรจาลูกค้าที่อินเดียด้วย โดยได้มีการส่งข้อมูลสินค้าให้พิจารณาแล้ว
***ต้องปรับเป้าหมายปริมาณจำหน่ายถ่านหินใหม่หรือไม่ หลังจากได้เจรจากับลูกค้าเกาหลี
อาจมีการปรับเพิ่มประมาณการใหม่ ซึ่งคงมีการพิจารณาทบทวนอีกครั้งหลังงบไตรมาส 2/2554
พีที ชวนส่งต่อน้ำใจ ช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยและฟื้นฟูพื้นที่ภาคเหนือ
แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ หุ้นไทยวันศุกร์ เข้าสู่ความผันผวน ตามทิศทางเดียวกับหุ้นโลก.....
รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์
สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้