Today’s NEWS FEED

เวทีความคิด

สหรัฐฯ - จีนระงับขึ้นภาษีนำเข้า 90 วัน…การค้าโลกผ่อนคลายความตึงเครียดในระยะสั้น แต่ผลกระทบต่อส่งออกไทยยังคงอยู่

16,111

สหรัฐฯ - จีนระงับขึ้นภาษีนำเข้า 90 วัน…การค้าโลกผ่อนคลายความตึงเครียดในระยะสั้น แต่ผลกระทบต่อส่งออกไทยยังคงอยู่

ประเด็นสำคัญ

  • ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ได้ตกลงระงับการเก็บภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มเติมระหว่างกันเป็นระยะเวลา 90 วัน เพื่อเปิดทางสู่การเจรจาเพื่อยุติสงครามการค้า โดยทรัมป์ตกลงที่จะเลื่อนการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ จากวันที่ 1 มกราคม 2562 ไปเป็นวันที่ 1 มีนาคม 2562
  • ในขณะที่จีนตกลงที่จะนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ มากขึ้นเพื่อลดความไม่สมดุลทางการค้าระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้ผู้นำทั้งสองประเทศยังให้คำมั่นที่จะเริ่มเจรจาเรื่องการส่งผ่านเทคโนโลยีและการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา
  • การตกลงครั้งนี้ส่งสัญญาณที่ดีว่าทั้งสองประเทศมีแนวโน้มที่จะประนีประนอมกันมากขึ้น ซึ่งช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าโลกได้อย่างน้อยในระยะสั้นและส่งผลดีต่อการส่งออกของไทย
  • อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่ามีความเสี่ยงค่อนข้างมากที่การเจรจาจะไม่บรรลุผลและจีนจะไม่สามารถทำตามเงื่อนไขต่างๆ ได้ทั้งหมด ภายในวันที่ 1 มีนาคม 2562 ส่งผลให้สหรัฐฯ อาจจะยังคงขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่ากว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 10% เป็น 25% ซึ่งจะส่งผลให้สงครามการค้ายืดเยื้อต่อไปในระยะยาว ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงประมาณการณ์ผลกระทบต่อการส่งออกไทยที่กรอบ 3,100-4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่มีแนวโน้มที่จะเข้าใกล้กรอบ 3,100 มากขึ้น เนื่องจากการความตึงเครียดทางการค้าที่ผ่อนคลายลงจากท่าทีประนีประนอมของทั้งสองประเทศ

 

จากการประชุมนอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ของอาร์เจนติน่าเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ได้ตกลงระงับการเก็บภาษีสินค้านำเข้าของแต่ละฝ่ายเพิ่มเติมเป็นระยะเวลา 90 วัน หลังจากการประชุม เพื่อเปิดทางสู่การเจรจาเพื่อยุติสงครามการค้า โดยทรัมป์ตกลงที่จะเลื่อนการขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 10% เป็น 25% ในวันที่ 1 มกราคม 2562 นี้ออกไปอีก 60 วัน เป็นวันที่ 1 มีนาคม 2562 ในขณะที่จีนตกลงที่จะซื้อสินค้าเกษตร พลังงาน และอุตสาหกรรมจำนวนมากจากสหรัฐฯ เพื่อลดความไม่สมดุลทางการค้าระหว่างสองประเทศ ซึ่งทางจีนได้ตกลงจะเริ่มซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ ทันที อย่างไรตาม ยังไม่ได้มีการระบุปริมาณการนำเข้าและประเภทสินค้าอย่างแน่ชัดจากการประชุมในครั้งนี้ นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองประเทศยังให้คำมั่นที่จะเริ่มเจรจาด้านการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างเกี่ยวกับเรื่อง

 

การบังคับการส่งผ่านเทคโนโลยี การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา อุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี การบุกรุกและขโมยทางไซเบอร์ ซึ่งทรัมป์ต้องการที่จะขจัดการส่งผ่านเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาอย่างไม่เป็นธรรมจากสหรัฐฯ ไปจีน

การตกลงครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณที่ดีว่าทั้งสองประเทศมีแนวโน้มที่จะประนีประนอมกันมากขึ้นและอาจมีการตกลงที่จะยุติสงครามการค้าในอนาคต ซึ่งช่วยคลี่คลายความตึงเครียดของการค้าโลกอย่างน้อยในระยะสั้นและส่งผลดีต่อการส่งออกของไทย อย่างไรก็ดี แม้ว่าทั้งสองประเทศตกลงที่จะพยามบรรลุตามข้อตกลงให้ได้ภายใน 90 วันข้างหน้า แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทางจีนจะสามารถทำตามข้อตกลงได้ทั้งหมดหรือไม่ และสหรัฐฯ จะเข้มงวดกับเงื่อนไขต่างๆ มากน้อยเพียงใด ดังนั้น สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งยังคงต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าผลลัพธ์หลังจากวันที่ 1 มีนาคม 2562 อาจออกมาได้ 3 กรณีดังต่อไปนี้

 

  1. สหรัฐฯ จะยังคงขึ้นภาษีนำเข้าจาก 10% เป็น 25% ในสินค้าจีนมูลค่ากว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้า หากจีนไม่สามารถทำตามข้อตกลงและเป็นที่น่าพอใจได้ภายใน 90 วัน หากกรณี้เกิดขึ้น สงครามการค้ามีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อต่อไปในระยะยาวและอาจฉุดรั้งการค้าโลกในอนาคตข้างหน้า 
  2. สหรัฐฯ ไม่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนเป็น 25% แต่ยังคงภาษีนำเข้าที่อัตรา 10% ซึ่งเริ่มเก็บในเดือนกันยายนที่ผ่านมา หากจีนสามารถทำตามที่ตกลงไว้และเป็นที่น่าพอใจ กรณีนี้แม้ผลลัพธ์จะไม่ต่างจากก่อนหน้าการประชุม แต่เป็นการส่งสัญญาณที่ดีว่าทั้งสองฝ่ายประนีประนอมกันมากขึ้น
  3. สหรัฐฯ ลดภาษีนำเข้าสินค้าจีนจาก 10% เป็นอัตรา Most-favored nation (MFN) ดังเช่นก่อนทรัมป์เริ่มสงครามการค้า กรณีนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในระยะสั้น และอาจต้องมีการเจรจาตกลงกันหลายรอบ ซึ่งสหรัฐฯ น่าจะเพิ่มเงื่อนไขในภายหลังสำหรับการลดภาษี ส่งผลให้อาจใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 ปี ในการที่จะกลับไปเก็บภาษีในอัตราเดิม

 

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่ามีความเสี่ยงค่อนข้างมากที่การเจรจาจะไม่สำเร็จภายใน 90 วัน เนื่องจากเป็นระยะเวลาค่อนข้างสั้น อีกทั้ง การแก้ไขเรื่องการบังคับบริษัทสหรัฐฯ ถ่ายทอดเทคโนโลยีไปยังผู้ผลิตจีนและการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญานั้นมีความซับซ้อนและไม่น่าสำเร็จได้ในระยะเวลาอันสั้น  ดังนั้น มีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากที่สหรัฐฯ จะยังคงขึ้นภาษีนำเข้าจาก 10% เป็น 25% ในวันที่ 1 มีนาคม 2562 ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการณ์ผลกระทบต่อการส่งออกไทยที่กรอบเดิม โดยมีมูลค่า 3,100-4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2562 หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.6-0.9 ของ GDP ไทย อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะระงับการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มเติมในมูลค่า 2.67 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามที่สหรัฐฯ เคยข่มขู่ไว้ก่อนหน้า

 

ซึ่งครอบคลุมสินค้าหลักทุกชนิดที่จีนส่งออกไปยังสหรัฐฯ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ไทยเป็นหนึ่งในห่วงโซ่อุปทาน ในขณะที่ จีนมีท่าทีที่จะประนีประนอมและทำตามที่สหรัฐฯ ต้องการมากขึ้น อีกทั้ง จีนจะมีการประชุม 2 สภา และการแถลงเป้าเศรษฐกิจประจำปีในเดือนมีนาคมปีหน้า ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้จีนเร่งปรับเปลี่ยนนโยบายภายในประเทศและทำตามที่สหรัฐฯ เรียกร้องมากขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากสงครามการค้า ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าโลก และส่งผลให้ผลกระทบต่อการส่งออกไทยมีแนวโน้มที่จะจำกัดอยู่ในกรอบล่างที่ 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

FTI จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ผถห.อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ผถห.อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

ได้เวลาซื้อหุ้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นหุ้นตก หุ้นร่วง ณ จุด นี้ ด้วยข่าวอิสราเอลได้เปิดปฏิบัติการโจมตีอิหร่าน.. ขอมองต่าง

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้