Today’s NEWS FEED

เวทีความคิด

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย : ประเมินน้ำท่วมสงขลาและหลายจังหวัดภายใต้ คาดกระทบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาท

88

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย : ประเมินน้ำท่วมสงขลาและหลายจังหวัดภายใต้ คาดกระทบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาท


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (25 พฤศจิกายน 2568 ) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินผลกระทบจากเหตุอุทกภัยที่สงขลาและหลายจังหวัดภาคใต้ต่อเศรษฐกิจ เป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรก ผลกระทบทันทีจากการหยุดชะงักของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งพอจะประมาณได้ ส่วนที่สองจากความเสียหายต่อสินทรัพย์ ซึ่งซับซ้อนกว่า เพราะความเสียหายอาจทยอยรับรู้ในอนาคตโดยหลายภาคส่วน นอกเหนือไปจากครัวเรือน เช่น รัฐบาล สถาบันการเงิน คู่ค้า ฯลฯ

 


สำหรับส่วนแรก ผลกระทบอาจไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาทในกรอบเวลา 1 เดือน หรือราว 0.13% ของ Nominal GDP บนสมมติฐานเหตุการณ์รุนแรงในช่วง 10-15 วันแรก โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลาที่ช่วงแรกประสบภัยแทบทุกพื้นที่ และความรุนแรงทยอยลดระดับลงในอีก 10-15 วันถัดมา

 


 เมื่ออุทกภัยทยอยคลี่คลาย ผู้ประสบภัยยังต้องจัดการความเสียหายของสินทรัพย์ ซึ่งการรับรู้ผลกระทบเพิ่มเติมในส่วนที่สอง คงจะทยอยใช้เวลา และขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น เงินออมและความสามารถในการหารายได้ของแต่ละครัวเรือน ภาวะเศรษฐกิจ ความช่วยเหลือจากเจ้าหนี้และคู่ค้าต่างๆ ซึ่งรวมถึงสถาบันการเงิน ตลอดจนมาตรการจากภาครัฐ

 

 

จากเหตุอุทกภัยครั้งร้ายแรงสุดที่สงขลา ซึ่งหนักมากต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน และในอีกหลายจังหวัดภาคใต้ ได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี นราธิวาส ปัตตานี ตรัง สตูล ยะลา ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนรวมแล้วราว 8 แสนครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 4 แสนไร่ กระทั่งปัจจุบัน สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย และไปข้างหน้าก็ยังมีความเสี่ยงที่ปริมาณน้ำฝนและน้ำท่าอาจจะยังมากอยู่


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินผลกระทบเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรก ผลกระทบทันทีจากการหยุดชะงักของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งพอจะประมาณได้ ส่วนที่สองจากความเสียหายต่อสินทรัพย์ ซึ่งซับซ้อนกว่า เพราะความเสียหายอาจทยอยรับรู้ในอนาคตโดยหลายภาคส่วน นอกเหนือไปจากครัวเรือน เช่น รัฐบาล สถาบันการเงิน คู่ค้า ฯลฯ

 

สำหรับส่วนแรกนั้น ผลกระทบต่อเศรษฐกิจในเบื้องต้นอาจคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาทในกรอบเวลา 1 เดือน หรือราว 0.13% ของขนาดเศรษฐกิจประเทศไทย (Nominal GDP) บนสมมติฐานเหตุการณ์รุนแรงในช่วง 10-15 วันแรก และความรุนแรงทยอยลดระดับลงในอีก 10-15 วันถัดมา โดยผลกระทบหลักอยู่ที่จังหวัดสงขลา ซึ่งช่วงแรกประสบภัยในแทบทุกพื้นที่

 


โดยหลักๆ จะมาจากการหยุดชะงักลงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคบริการ (สถานที่พักแรม ร้านอาหาร ค้าปลีก ขนส่ง เป็นต้น) และการผลิตอุตสาหกรรม (เช่น เกษตรและอาหารแปรรูป) ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 56% และ 18% ตามลำดับในจังหวัดสงขลา รวมไปถึงการหยุดให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างไฟฟ้าและประปา (สัดส่วนกว่า 3%) ขณะที่ เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงปลายปีที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจมักจะคึกคักขึ้นตามปัจจัยด้านฤดูกาลของการท่องเที่ยว อีกทั้งอยู่ในช่วงที่ไทยกำลังจะเป็นเจ้าภาพงานกีฬาซีเกมส์ 9-20 ธันวาคม 2568 และสงขลาเป็นหนึ่งในสถานที่จัดการแข่งขันหลายประเภทกีฬา นอกจากนี้ ความเสียหายส่วนที่เหลือของสงขลาและในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ผลกระทบจะเป็นภาคเกษตร ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมัน รวมถึงพื้นที่เลี้ยงสัตว์น้ำหรือประมง

 

 

เมื่ออุทกภัยทยอยคลี่คลาย ผู้ประสบภัยจะได้รับผลกระทบจากการจัดการความเสียหายของสินทรัพย์เพิ่มเติม เช่น อาคาร รถยนต์ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งการรับรู้ผลกระทบในส่วนที่สองนี้ ทั้งการซ่อมแซม/ฟื้นฟู/ซื้อใหม่ คงจะทยอยใช้เวลา และยังต้องขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น เงินออมและความสามารถในการหารายได้ของแต่ละครัวเรือน ภาวะเศรษฐกิจ ความช่วยเหลือจากเจ้าหนี้และคู่ค้าต่างๆ ซึ่งรวมถึงสถาบันการเงิน ตลอดจนมาตรการจากภาครัฐ

บทความล่าสุด

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย : ประเมินน้ำท่วมสงขลาและหลายจังหวัดภายใต้ คาดกระทบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาท

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินผลกระทบจากเหตุอุทกภัยที่สงขลาและหลายจังหวัดภาคใต้ต่อเศรษฐกิจ เป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรก ผลกระทบ...

SSP ส่งซิกผลงาน Q4/68 โตแรง ช่วงไฮซีซันลม-รับรู้รายได้ LEO 2

SSP ส่งซิกผลงาน Q4/68 โตแรง ช่วงไฮซีซันลม-รับรู้รายได้ LEO 2

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้