Today’s NEWS FEED

เวทีความคิด

ชี้การเมืองไม่สงบง่ายๆ เล่นหุ้นหลังเลือกตั้งมีสติ ปชป.ชนะหุ้นพุ่งทะยาน! พท.ชนะหุ้นตกกระจาย

2,741

ชี้การเมืองไม่สงบง่ายๆ เล่นหุ้นหลังเลือกตั้งมีสติ ปชป.ชนะหุ้นพุ่งทะยาน! พท.ชนะหุ้นตกกระจาย

By : เอกยุทธ อัญชันบุตร

"เอกยุทธ" ออกโรงเตือนนักลงทุนอีกรอบ ก่อนวันกาบัตร ดัชนีมีสิทธิ์หลุดมาที่ระดับ 950-960 จุด เพราะต่างชาติยังเดินหน้าลดพอร์ตลงทุน แต่หลังเลือกตั้งต้องคอยลุ้น อาจเกิดอาการ Sideway Down ประมาณ 5-8% ถ้าปชป.ชนะหุ้นจะตีกลับมายืนระดับ 1,300-1,500 จุด แต่ถ้าพท.ชนะได้ตั้งรัฐบาล หุ้นตกกระจายแน่ เพราะต้องเข้ามาเปลี่ยนนโยบายศก.ใหม่หมด ยังเชื่อ "การเมืองไม่สงบง่ายๆ"

"เอกยุทธ อัญชันบุตร" ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ "ไทยอินไซเดอร์" และนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้น มีมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยในช่วง "ก่อน" และ "หลัง" การเลือกตั้ง โดยแสดงความเห็นผ่านกรุงเทพธุรกิจ BizWeek ว่า ในช่วงที่เหลือของเดือนมิ.ย.นี้ หากมองในมุมที่แย่สุดๆ SET Index มีโอกาสปรับตัวลดลงมาที่ 950-960 จุด เพราะนักลงทุนต่างชาติยังเดินหน้าลดพอร์ตการลงทุน

ทั้งนี้ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา "เอกยุทธ" เคยเตือนนักลงทุนผ่านเว็บไซต์ของตัวเองว่า มีกองทุนต่างชาติเริ่มมีการขายออกมาในช่วงที่ดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,060-1,080 จุด ซึ่งมีการทยอยขายออกมามาก ก่อนหน้านี้เขาประเมินจุดที่น่าจะมีการทยอยเข้ามาเก็บหุ้นได้คือ 1,020-1,040 จุด ซึ่งวันนี้ก็ลงมาแล้ว จุดต่อไปเชื่อว่าแรงขายจะเกิดขึ้นต่อเนื่อง สาเหตุหลักเพราะมีโบรกเกอร์ใหญ่ในต่างประเทศออกรายงานให้ขายในขณะที่หุ้น(กำลัง)ตก ซึ่งเป็นการ "ทุบหุ้น" เพื่อให้หุ้นตก 8-10% และตัวเองจะได้เข้ามาเก็บหุ้นได้ โดยนำเงินไปพักที่ตลาดพันธบัตรและเงินยังไม่ได้ไหลออก

ตลาดหุ้นในช่วงนี้ยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามา มีแต่ปัจจัยลบรอบด้าน ปัญหาความวุ่นวายในประเทศกรีซทำให้ค่าเงินบาทอ่อนตัว ขณะเดียวกันยังหวั่นเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและยุโรป มองว่าการฟื้นตัวอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย แถมยังกลัวการเมืองไทยที่อาจเปลี่ยนขั้วอำนาจพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล หากมีการเปลี่ยนแปลงจริงๆนั่นหมายความว่า นโยบายด้านต่างๆจะมีหน้าตาไม่เหมือนเดิม.."เอกยุทธ" มอง

"แต่ถ้าโชคดี "ปลายไตรมาส 2" นักลงทุนต่างชาติทำ Window Dressing คือทำให้ตัวเลขทางบัญชีให้ดูดีเหมือนปกติ หุ้นไทยก็อาจปรับตัวลดลงไม่มากนัก...เมื่อหลายสัปาดห์ก่อนผมเคยเตือนเรื่องนักลงทุนต่างชาติอาจเทขายหุ้นแล้ว สัญญาณมันเริ่มมาหนักๆ ตอนดัชนียืน 1,060-1,080 จุด ถ้าใครเชื่อก็คงรอดตัวไป"

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นหลังการเลือกตั้ง "เอกยุทธ" ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยอาจเกิดอาการ Sideway Down ประมาณ 5-8% คาดว่าดัชนีคงยืนแถวๆ 960 จุด ยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์ชนะขาดลอย หุ้นไทยจะตีกลับมายืนระดับ 1,300-1,500 จุด แต่หากพรรคเพื่อไทยชนะได้จัดตั้งรัฐบาล "รับรองหุ้นไทยตกกระจาย" เพราะเขา (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ต้องเข้ามาเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจและนโยบายด้านต่างๆใหม่หมด เมื่อเป็นเช่นนั้นเชื่อได้เลยว่า "การเมืองไม่สงบชัวร์!" ตลาดหุ้นมีโอกาสลงไปเคลื่อนไหวในกรอบ 850-1,000 จุด

เว้นเสียแต่ว่าพรรคเพื่อไทยสามารถพิสูจน์ได้ว่า นโยบายด้านต่างๆมีผลดีเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง และไม่มีคนออกมาเดินขบวน ในระยะ "กลาง-ยาว" ดัชนีอาจขึ้นไป 1,200 จุดได้ เพราะพื้นฐานตลาดหุ้นไทย "ยังดีอยู่" แต่ความคิดเห็นส่วนตัว "ผมไม่เชื่อว่ามันจะสงบ"

ถามต่อว่า นักลงทุนควรปรับกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร "เอกยุทธ" กล่าวว่า สำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว หากดัชนีลงมาระดับ 950-960 จุด ให้ซื้อหุ้นเข้าพอร์ต 30-40% แต่ถ้าดัชนีหุ้นยืนได้ระดับ 1,005-1,010 จุด (ไม่หลุด 1,000 จุด) ให้ซื้อหุ้นเข้าพอร์ตเพียง 20-30% สำหรับนักลงทุนระยะสั้นบอกเลย "ไม่เชียร์ให้ซื้อหุ้นในตอนนี้ มีโอกาสขึ้นไปชมวิว (ติดดอย) แน่ๆ..ช่วงนี้เล่นยาก"

ถามว่าแล้วหุ้นกลุ่มไหนน่าลงทุนที่สุด "เอกยุทธ" กล่าวว่า แนะนำให้เน้นหุ้น "กลุ่มพลังงาน" โดยเฉพาะ "ครอบครัวปตท." ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือร้าย หุ้นกลุ่มปตท. "ไม่เคยตาย" ส่วนหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน และกลุ่มอาหาร  "หลีกเลี่ยงไปเลยดีที่สุด" เพราะมีสิทธิได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเมือง หากการเมืองเปลี่ยนขั้ว ก็ต้อง "มีลุ้น" ว่าบริษัทไหนจะอยู่ข้างใคร

นอกจากนี้หุ้น "ไอพีโอ" เป็นอีกกลุ่มที่นักลงทุนควร "หลีกหนีให้ไกล" ซื้อไปก็ไม่คุ้ม กรุณาอย่าไปซื้อวันแรกๆ เพราะราคามัน "โอเวอร์" มาก ถ้าอยากได้จริงๆเพราะพื้นฐานดี ก็ให้รอสักพักให้ราคาหุ้นมันสะเด็ดน้ำเสียก่อน พูดง่ายๆให้นักลงทุนขาใหญ่  “เลิกปั่นหุ้นก่อน..ค่อยเข้าไปซื้อ” หุ้นไอพีโอที่ดันราคาขึ้นสูงช่วงวันแรกๆใครไปซื้อแล้วออกไม่ทัน รับรอง "ติดดอยไม่ได้ลงยาว" ส่วนพวกหุ้น "บิ๊กแคป" (หุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่) ที่มีต่างชาติลงทุนเยอะๆ ช่วงนี้เลี่ยงได้ก็ดี

"ถ้าต้องการลงทุนหุ้นที่มีพื้นฐานดี ซึ่งก็มีอยู่มากในตลาด ก็ขอให้ทำการบ้านสักนิด ซื้อช่วงที่หุ้นตกหนักๆแล้วไปรอขายตอนสิ้นปี เชื่อว่าผลตอบแทนจากการลงทุน 20% คุณได้แน่! แต่ถ้าดื้อลงทุนหนักโดยไม่ศึกษาให้ดี แทนที่จะได้กำไรจะกลายเป็นขาดทุนได้ง่ายๆ"เอกยุทธกล่าวเตือน

(ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ BizWeek....http://tinyurl.com/3f5swnn)

ต่อมาในวันนี้ (21 มิ.ย.) นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ "ไทยอินไซเดอร์" และนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้น กล่าวในรายการ "มองการณ์ไกล" โดยพูดถึงสถานการณ์การลงทุนในตลาดหุ้นว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังเป็น sideway down ตลอด เพราะมีแรงขายของต่างชาติเยอะ วอลุ่มเริ่มน้อยลง หลังโบรกเกอร์ใหญ่ออกข่าว-ขายออกมา แสดงให้เห็นว่า การขายของต่างชาติเบาบางหรือยังขายไม่ได้ เป็นเรื่องที่ดีที่รายย่อยระงับจิตใจ ไม่เข้าไปซื้อมาก

"วันนี้ตลาดเปิดมา วอลุ่มก็น้อยมาก เพราะความกังวลเรื่องการเมืองในบ้านเรายังเป็นจุดสำคัญ ประกอบกับเศรษฐกิจยุโรป ที่ค่าเงินโดนลดเกรด คือที่กรีซ และกำลังลามไปถึงอิตาลี-โปรตุเกส ถือเป็นวิกฤตใหญ่ แต่หากมองในศัยภาพของยุโรปแล้ว คงแก้ปัญหานี้ได้ เพราะอียูไม่มีใครปล่อยให้เครือเดียวกันล้มละลาย เพราะจะส่งผลกระทบต่อค่าเงินยูโร แต่ช่วงสั้นจะกระทบกับค่าเงินที่กำลังถดถอย เป็นสงครามระหว่างค่าเงินยูโรกับค่าเงินยูเอสดอลล่าร์ ที่กลับมาแข็งค่าขึ้น"นายเอกยุทธกล่าว

อีกเรื่องคือ มาตรการการช่วยเหลือของเฟด ที่กำลังหมดในเดือนนี้ ก็ต้องติดตามว่า รัฐบาลสหรัฐจะออกมาช่วยเหลืออีกหรือไม่ ถ้าออกมาก็จะช่วยเหลือตลาดให้ดีขึ้นอย่างฉับพลัน เพราะการที่ทุ่มเงินเข้ามาในตลาด ทำให้มีสภาพคล่องสูงมาก หลายเดือนที่ผ่านมา ที่อยู่กันได้ เพราะสาเหตุนี้ที่รัฐบาลสหรัฐออกมาช่วยเหลือค่อนข้างมาก แต่ถ้ามาตรการนี้หมด และไม่ออกมาตรการเพิ่มเติมอีก ก็เป็นประเด็นที่น่าจะเกิดผลกระทบกับตลาดหุ้นค่อนข้างมาก และจะกระทบกับตลาดบ้านเราเลย ที่ผ่านมาจะเห็นว่า ใครไปลงทุนที่อเมริกาช่วงหลัง จะเสียเงินค่อนข้างเยอะ ถือเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องติดตามให้มาก คือมาตรการช่วยเหลือของสหรัฐกับวิกฤตในยุโรป

สำหรับบ้านเรา ยังต้องดูเรื่องการเมืองที่จะมีการเลือกตั้งในอีกไม่กี่วัน ถ้าเปลี่ยนขั้วรัฐบาล นโยบายต่างๆ จะเปลี่ยนไป จะกระทบถึงตลาดหุ้นและหุ้นบางตัว ถ้าปชป.ยังอยู่ หุ้นก็ขึ้นต่อ ถ้าเปลี่ยนขั้วเป็นพรรคอื่น ระยะสั้นตลาดหุ้นคงเกิดผลกระทบ นักลงทุนคงขายหุ้นออกไปเพื่อเก็บเงินสด ประกอบกับค่าเงินบาทจะอ่อนลง ทำให้เศรษฐกิจชะงักงันในช่วงสั้น เพราะกังวลว่าจะมีการยกเลิกนโยบายที่มีอยู่แล้ว เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องติดตามให้ใกล้ชิดมาก แนะนำว่า ถ้าจะซื้อเพื่อการลงทุนระยะกลาง-ระยะยาว สัปดาห์นี้ถ้าหุ้นลงแรง ซื้อได้สัก 30-40% เพื่อเก็งกำไร เพราะสัปดาห์หน้าน่าจะมี window dressing ก็แนะนำให้ขายทิ้ง ก่อนจะมีการเลือกตั้ง ไปรอหลังเลือกตั้งให้มีความชัดเจนดีกว่า

บทความล่าสุด

HotNews: RJH ทุ่ม 420 ลบ. ลุยโครงการซื้อหุ้นคืน

บอร์ด RJH เคาะ โครงการซื้อหุ้นคืน จำนวน 18 ล้านหุ้น วงเงิน 420 ลบ. เริ่ม 15 พ.ย.67 - 30 เม.ย.68

หนาแน่น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย เช้าวันนี้ ยังคงมีความคึกคัก .....

มัลติมีเดีย

รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์

รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้