วันที่ 16 ธันวาคม 2563 พบกับเจ๊มดแดงได้ที่  www.hooninside.com (Line : @hooninside) รู้ลึกรู้จริงคลุกวงในหุ้นสไตล์กล้วยๆ

          เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง วันนี้ ชาวหุ้น คงต้องไหลตามน้ำ เทรดตามกระแสFUND FLOW มิควรฝืน  วานนี้ ตลาดหุ้นไทย ปรับตัว  ปรับฐานในตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  บางตัวบางเซกเตอร์ตั้งลำ  เปล่งประกายลำแสงสีเขียว  หุ้นตัวกลาง  ตัวเล็ก หลายตัว  ปรับตัวขึ้น แรงเก็งกำไรเนืองแน่น  สะท้อนถึงความมั่นใจในเกม  ส่วนวันนี้ ราคาจะขยับไปอย่างต่อเนื่องหรือไม่  คงต้องดูกันที่หน้างาน คร้า

          ทิศทางตลาดยังเป็นขาขึ้น  นักลงทุนต้องขยันทำกำไรจากหุ้น.... สายตาของเจ๊มดแดง  ตลาดและราคาหุ้น พร้อมเหวี่ยงแบบรถไฟเหาะตีลังกา.....

          วานนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,477.21 จุด เพิ่มขึ้น 1.08 จุด หรือ 0.07% มูลค่าการซื้อขาย 91,745.00  ล้านบาท  สรุปสถาบันในประเทศขายสุทธิ 3,756.71  ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 379.41 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,431.26  ล้านบาท  นักลงทุนทั่วไปในประเทศซื้อสุทธิ 2,704.86 ล้านบาท

          ฝ่ายวิจัย ASPS บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์  ระบุ แนวโน้มเงินบาท  หลังจากนี้เชื่อว่าจะยังมีทิศทางแข็งค่า และมีโอกาสหลุด 30บาท หลักๆเป็นผลจาก Dollar index ที่มีทิศทางอ่อนค่าต่อ ปัจจุบันอ่อนค่าทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 ปี 8 เดือน , นโยบายของ Joe Biden พัฒนาการของวัคซีน ฯลฯ   หากพิจารณาระดับที่เงินบาทเคยอ่อนค่าขึ้นไปทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 33 บาท คือ ต้นเดือน เมย.2563 พบว่าเงินบาทแข็งค่ามากที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจากเกาหลีใต้ และอินโดนีเซีย  ซึ่งกระทบต่อภาคส่งออกของประเทศ เพราะแลกเงินกลับมาได้น้อยลง) ถือเป็น Sentiment เชิงลบต่อหุ้นส่งออก อาหาร และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิก แต่ในทางตรงข้าม หุ้นที่ได้ประโยชน์ เป็น Sentiment เชิงบวกต่อ หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า BGRIM, GULF และ PTTEP

          หุ้นเหล็ก มาแล้ว มาตั้งแต่เมื่อวาน PERM  SAM TSTH INOX GJS ขอบอก เกมเดือด  วันนี้ ราคา....จะเคลื่อนไหวไปทิศทางใด  นักลงทุน ระหว่างชั่วโมงเทรด ห้ามลุกเข้าห้องน้ำเป็นอันขาด....หุ้นเหล็ก ยามเล่นก็เล่น ก็เทรด แบบไม่คิดชีวิต  ยามเลิก ก็ต้องหนีตาย ให้ทันเท่านั้นเอง 5555

          NUSA บวก16.67% เห็นแบบนี้ ใครจะกล้า เดินไปถามใคร 100 คน เกือบทั้งหมด ขอไม่เสี่ยงดีกว่า  ส่วนตัวเจ๊มดแดง ก็ยินดีกับนักเก็งกำไร นักซิ่งที่สามารถวิ่งไปเก็บเหรียญสลึงกลางถนนวิภาวดีได้

          W บวก0.01บ.  คิดเป็น 3.85% เรียบว่า  คนซื้อหวัง W-W5 ฟรี สัดส่วน 2.50ต่อ1 อายุ3 ปี 9 เดือน 23 วัน นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ อัตราใช้สิทธิ1ต่อ1 ราคาใช้สิทธิ 0.14 บาท/หุ้น  งานนี้ต้องซื้อก่อนวันแขวนXW 23 ธ.ค.63

          STARK เล่นได้ดุ ปิดที่ 2.22 บาท บวก 12 สตางค์ คิดเป็น5.71% หลังจากเมื่อเร็วๆนี้  ชนินทร์ เย็นสุดใจ   ประธานกรรมการ พร้อมด้วยคุณประกรณ์ เมฆจำเริญ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK จัดงาน Analyst Meeting แจกแจงข้อมูลเกี่ยวกับผลประกอบการไตรมาส 3/63 และแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ พร้อมเผยอีกว่าปัจจุบันมีปริมาณงานในมือทั้งในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม (Backlog) อยู่ประมาณ 11,000 ล้านบาท  เห็นราคาหุ้น STARK บวกแบบนี้   ถือว่า ประสบความสำเร็จ

          เจ๊มดแดง  ยินดีกับ  คุณพิทักษ์ รัชกิจประการ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG (ปั๊มน้ำมัน PT) ด้วยค่ะ ที่ได้รับรางวัล “สุดยอดสินค้าแห่งปี 2563” ในประเภทสินค้าและบริการ กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภคยอดเยี่ยมแห่งปี ในโครงการ “BUSINESS+ PRODUCT OF THE YEAR AWARDS 2020” ซึ่งรางวัลดังกล่าวจัดทำขึ้นโดย นิตยสาร BUSINESS+ ร่วมกับวิทยาลัยการจัดการ สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) โดยรางวัลผ่านการคัดเลือก สำรวจและวิจัยตลาดตามหลักวิชาการจากผู้เชี่ยวชาญ และคะแนนโหวตจากผู้บริโภค สู่การเป็นรางวัลมหาชนแห่งปี โดยมีนายชวน หลีกภัย  ประธานรัฐสภา ซึ่งเป็นประธานในพิธี เป็นผู้มอบรางวัล ณ โรงแรมเรดิสัน บลู พลาซ่า บางกอก ถ.สุขุมวิท กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆนี้

          SHR วางเป้าหมาย ในการเปิดตัวโรงแรมและรีสอร์ทใหม่อย่างน้อย6 แห่งภายในปี 2564 และวางกลยุทธ์ในการดำเนินงานให้มีพอร์ตเติบโตเป็น2เท่าภายใน5ปี ด้วยการวางงบลงทุนรวม 500 -1,000ล้านบาท เพื่อขยายโรงแรมให้เพิ่มมากขึ้นเป็น 82 แห่ง (9,000 ห้อง) ภายในปี2568 จากปัจจุบันมีโรงแรมทั้งหมด 39 แห่ง (4,647 ห้อง) ด้านแผนการดำเนินงานในปี2564 บริษัทมีแผนจะเปิดตัว "nabor" (เนเบอร์) แบรนด์โรงแรมและรีสอร์ทเพื่อเจาะกลุ่มตลาด "Luxury Midscale" หรือตลาดระดับกลาง แต่เป็นสถานที่คุณภาพระดับลักชัวรี่ที่เข้าถึงง่าย เพื่อให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวยุคใหม่ (Millennial-MindedTravellers) และกลุ่มนักท่องเที่ยววัยรุ่น โดยจะเริ่มเปิดตัวในเดือนเมษายน 2564 ซึ่งโรงแรมแห่งแรก จะตั้งอยู่ที่ บ่อผุด เกาะสมุย และตั้งเป้าว่าจะเปิดnabor ให้ได้6แห่ง ภายในปี64โดยใช้งบลงทุนที่ไม่มากนัก เนื่องจากแผนงานดังกล่าวเป็นการนำโรงแรมที่มีการสร้างเสร็จแล้วมาบริหารหารและจัดการใหม่ภายใต้ชื่อ nabor

                    ***การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน***