EUREKA โชว์ผลงานปี 2556 สุดหรู กำไรพุ่ง 147% พร้อมวางเป้ารายได้ปีนี้โต 25% รุกตลาดตปท.เต็มสูบ
บมจ.ยูเรกา ดีไซน์ (EUREKA) โชว์ผลประกอบการในปี 2556เติบโตอย่างต่อเนื่อง ฟันรายได้ 402.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.50%จากปีก่อนและกวาดกำไรสุทธิ 48.20ล้านบาท เพิ่มขึ้น 147% จากปีก่อนหลังคำสั่งซื้อทะลักเข้ามาอย่างต่อเนื่องประกอบกับบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างดีเยี่ยม  พร้อมวางเป้ารายได้ปี 2557เติบโต 25% หรือแตะ 500 ล้านบาท รุกตลาดต่างประเทศเต็มสูบระบุพร้อมเปิดบริการสาขาที่อินโดนีเซียในเดือนเมษายนและอินเดียในเดือนกรกฎาคม

นายนรากร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัทยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) (EUREKA) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในปี 2556รายได้รวมอยู่ที่ 402.79 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 31.50เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 306.28 ล้านบาทขณะเดียวกันมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 48.20 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 147 จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 19.51 ล้านบาท

“ผลประกอบการในปี 2556 ที่ผ่านมาขยายตัวอย่างต่อเนื่องและถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่เราวางไว้เนื่องจากนโยบายการเพิ่มพนักงานขายและขยายฐานลูกค้ารายใหม่เพื่อเพิ่มยอดขายตามเป้าหมายที่ตั้งไว้  และ จากการที่บริษัทฯเพิ่มปริมาณการผลิตชิ้นส่วนที่นำมาใช้ในการประกอบเครื่องจักรเองแทนการสั่งซื้อ”นายนรากร กล่าวอีกว่า บริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปีนี้ไว้ที่ 25%หรืออยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาทโดยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้จะเน้นการบริหารจัดการด้านต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นพร้อมกับการขยายฐานลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเก่าอย่างต่อเนื่องควบคู่กับการบริการและดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา  โดยขณะนี้มีงานในมือ(Backlog) อยู่ที่ 120 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในไตรมาส 1/2557ประมาณ 100 ล้านบาท นอกจากนี้ EUREKAยังเดินหน้าเจรจาหาออเดอร์ใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเชื่อมั่นว่าจะได้รับงานจากลูกค้าอย่างแน่นอนเพราะด้วยประสิทธิภาพการออกแบบและคุณภาพเครื่องจักรการส่งมอบเครื่องจักรทันเวลา รวมถึงการบริการหลังการขายที่ดีทำให้เชื่อมั่นว่าบริษัทฯจะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามอบหมายให้ทำงานต่อไปอีกทั้งนี้ จากแนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศที่ชะลอตัวลงตามกำลังซื้อที่หดตัวและผลกระทบจากปัญหาทางการเมืองภายในประเทศทำให้บริษัทฯได้เล็งขยายงานไปต่างประเทศมากขึ้นโดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ในต่างประเทศปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 25%จากปีก่อนที่มีสัดส่วน 12-13% และมีโอกาสขยับเพิ่มขึ้นเป็น  50%หากสถานการณ์ในประเทศยังไม่ดีขึ้น  ซึ่งตามแผนงานต่างประเทศนั้นคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการสาขาแรกที่ประเทศอินโดนีเซียได้ในเดือนเมษายนและเปิดดำเนินการสาขาที่ประเทศอินเดียในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้"กลยุทธ์และแนวทางของยูเรกา มีเป้าหมายที่จะมุ่งขยายฐานตลาดต่างประเทศเพื่อกระจายฐานรายได้และลดความเสี่ยงซึ่งที่ผ่านมาเราได้เตรียมตัวสำหรับการขยายตลาดต่างประเทศทั้งเรื่องบุคลากรและเทคโนโลยีทำให้ยูเรกาไม่ต้องปรับตัวมากนักในช่วงที่เจอวิกฤตจากในประเทศ" นายนรากรกล่าวในที่สุด